เดดล็อก ประยุทธ์ นายกฯรอบ 3 ไม่มีอภินิหาร ปิดตายรัฐบาลเสียงต่ำ

แคนดิเดตนายก

วาระการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยถูกเซตมาระยะหนึ่ง

เมื่อผลการสำรวจคะแนนความนิยมของฝ่ายรัฐบาลเดิม อันประกอบด้วย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา มีน้อยกว่าขั้วพรรคฝ่ายค้าน นำโดย พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล

เมื่อฝ่ายค้านเดิมมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ตัวช่วย ส.ว. 250 คนที่จะมาโหวตเลือกนายกฯ ฝ่าด่านเสียงข้างน้อย และ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งจึงถูกพูดถึง

แต่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ นักรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ว่า การกลับมาของ 3 ป. โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ง่าย และอาจจะต้องมีอภินิหารหลายเงื่อนไขมาบรรจบกัน

รศ.ดร.ประจักษ์อ่านเกมรัฐบาลเสียงข้างน้อยหากเกิดขึ้นจริง เกิดวิกฤตแน่

“ผมคิดว่าไม่ง่ายที่จะทำ นอกจากทำแล้วส่งผลเสียหายร้ายแรง ในทางปฏิบัติก็ไม่ง่าย ในประวัติศาสตร์มีครั้งเดียวคือ รัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตั้งอยู่ได้เดือนเดียว พอแถลงนโยบายปุ๊บโดนคว่ำเลย เท่ากับไม่เคยมีรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยังไม่ได้ทำงานเลย”

“ครั้งที่แล้วรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ใช่รัฐบาลเสียงข้างน้อย เกิน 250 สุดท้ายมีพรรคปัดเศษ พลิกมาเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำได้”

“มาครั้งนี้จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเหรอ ถ้าเสียงของสองฝ่ายขาดกัน ผมว่ายาก ถ้าได้รวมกัน 240 ยังพอตั้งได้ หาไปสัก 10 เสียง หรือ 230 เสียง ยังพอลุ้น พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ขาด 20 เสียงยังพอลุ้น แต่ก็ไม่ง่ายแล้วนะ”

แต่ถ้ารวมมาได้แค่ 200 เสียง จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างไร ผมมองไม่เห็นทาง ไม่เห็นอนาคตว่าจะอยู่รอดได้ คนจำนวนมากยังสับสนระหว่างการเลือกนายกฯ กับการตั้งรัฐบาล ตอนโหวตเลือกนายกฯ มี ส.ว.มาเอี่ยวแค่ตอนโหวตเลือกนายกฯ ให้ได้ 376 เสียง แต่ตอนตั้งรัฐบาลต้องใช้เสียง ส.ส.เท่านั้น ชี้ขาดกันแค่ 250 เสียง

“เปิดสภามาถ้าคุณมี 210 ที่นั่ง จะผ่านกฎหมายยังไง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณก็ไม่ผ่านแล้ว เปิดมาฝ่ายค้านก็อภิปรายไม่ไว้วางใจเลย ไม่ได้ปล่อยให้ทำงานเลยในสมัยประชุมแรก หรือจะผลักดันนโยบายอะไรได้ ในเมื่อเสียงน้อยขนาดนี้”

และที่บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวกลายเป็นเสียงข้างมากเอง ถ้าเสียงหายไปขนาดนี้ ได้แค่ 200-210 ที่นั่งจะไปดึงงูเห่ามาจากไหน จะเอาเก้าอี้รัฐมนตรีไปแลก คนที่อยู่ก็แย่งกันจะตายอยู่แล้ว จะไปแบ่งให้ใครอีกเหรอ งูเห่าก็ดูดกันไปหมดแล้ว งูเห่ารุ่น 2 รุ่น 3 จะมีอีกกี่คน

“แต่สิ่งที่คนอาจจะลืมไปคือ เลือกตั้งเสร็จแล้วเป็นงูเห่าเลย มันไม่ง่าย ชาวบ้านเพิ่งเลือกกันไปสด ๆ จากพรรคนี้ ผ่านไปเดือน สองเดือน คุณจะเป็นงูเห่าเลยเหรอ อันนี้ผมว่าโดนประณามแน่ ชาวบ้านไปล้อมบ้าน”

อีกฉากทัศน์การเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล มีคดีคา กกต. หากสุดท้ายมีการยุบพรรค เพื่อดึงงูเห่ามาร่วมรัฐบาล “รศ.ดร.ประจักษ์” เชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้

“เราไม่สามารถประมาทได้อยู่แล้ว ในกลไกที่ไม่ปกติทั้งหลายที่จะเกิดขึ้น การยุบพรรค เกิดงูเห่า และรัฐประหาร วิธีแบบนี้เกิดได้ทั้งสิ้นในการเมืองไทย แต่ต้องถามต่อ เกิดแล้วผลลัพธ์จะเหมือนเดิมหรือไม่…ไม่แน่ คนจะยอมรับเหมือนเดิม สยบยอมปล่อยผ่านให้เกิดขึ้น ไม่แน่แล้ว อารมณ์คนเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศมา 9 ปี”

แต่โอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์ที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ไม่ง่าย ต้องฝ่าด่านหลายด่านมาก ต้องมีหลายเงื่อนไขมาบรรจบกันพอดี หรือหลายอภินิหาร หลายประการมาบรรจบกัน พล.อ.ประยุทธ์ถึงจะกลับมาทำเนียบรัฐบาลได้ เรามัววิเคราะห์กัน พรรคก้าวไกล เพื่อไทย แต่แฟนคลับจริง ๆ ต้องดูด้วยว่า โอกาส 3 ป.กลับมาไม่ง่าย

ด่านแรก 25 เสียง เพื่อเสนอชื่อนายกฯ ในสภาได้ ก็ลุ้นเยอะเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าด่านนี้พอผ่านไปได้ คิดว่าไม่ตกม้าตายแต่แรก จะต้องใช้สรรพกำลัง ถ้าดูจากโพลต่าง ๆ ปาร์ตี้ลิสต์น่าจะได้ 10 ที่นั่ง ได้ปาร์ตี้ลิสต์มากที่สุดในขั้วรัฐบาลด้วยกัน เหลืออีก 15 ที่นั่ง น่าจะได้ เพราะภาคใต้บวกกับบางจังหวัด 25 จะผ่านเกณฑ์ แต่ไม่ทะลุเยอะ

ด่านที่สอง ต้องไปลุ้นอีกว่าฝ่ายค้านรวมกันได้ไม่ถึง 250 เสียง ด่านนี้ยาก แล้วถ้าฝ่ายค้านรวมกันได้เกิน 300 เสียง ขั้วรัฐบาลเหลือ 200 ยากแล้ว เพราะเป็นเสียงข้างน้อยที่น้อยมาก ๆ

และยังต้องลุ้นว่า ในขั้วเดียวกันตัวเองจะต้องได้อันดับหนึ่ง เพื่อจะมีความชอบธรรม ไม่งั้นคุณต้องไปต่อรอง ถ้าในขั้วรัฐบาลด้วยกันที่พรรคภูมิใจไทยได้ที่นั่ง ส.ส.เยอะกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ สมมติภูมิใจไทยได้ 70 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติได้ 40 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทยจะยกตำแหน่งนายกฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ไหม

มีบางคนเริ่มบอกสูตร สูตร 2-2 คือ เป็นคนละ 2 ปี แต่ใครจะยอมเป็นหลังล่ะ ก็ต้องแย่งกันเป็นก่อน ถ้ารวมไทยสร้างชาติได้ที่นั่งน้อยกว่าพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะมีพลังต่อรองยิ่งน้อยไปอีก ดังนั้นจะเห็นว่ามีหลายด่าน จะตั้ง ครม.อย่างไร

ด่านหินของ พล.อ.ประยุทธ์มีเยอะกว่าคนอื่นเยอะ เพราะพรรคภูมิใจไทยร่วมได้ทั้งสองฝั่ง เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐยินดีร่วมทั้งสองฝั่งอยู่แล้ว กลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์โดนโดดเดี่ยวที่สุด เพราะประกาศว่าไม่เอากับพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จึงต้องร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเท่านั้น

มันปิดประตูตัวเอง มันยากในแง่นี้ ถ้าเราวิเคราะห์โอกาสของ พล.อ.ประยุทธ์ ยกเว้นอภินิหารทั้งหลาย แต่อภินิหารทั้งหลายถูกใช้ไปหมดแล้ว ไม่ง่ายที่จะใช้ซ้ำ แล้วได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

ถ้าหากเกิดกรณีที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อยู่รักษาการไปเรื่อยๆ ได้หรือไม่ รศ.ดร.ประจักษ์ กล่าวว่า


ลากไปแต่ไม่สามารถเดดล็อกไปตลอดกาล ต้องหาทางตั้งรัฐบาลไปจนได้ ฝ่ายชนชั้นนำก็เสียประโยชน์ เพราะผลักดันอะไรไม่ได้ พวกกลุ่มทุนใหญ่ทั้งหลายจะเอาไหม ถ้าไม่มีรัฐบาลไปเรื่อย ๆ