“ประวิตร” ไฟเขียว จัดหาอากาศยานไร้คนขับ ใช้ตรวจเรือประมง

เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 12 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย(ไอยูยู) พร้อมเห็นชอบการจัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับ(ยูเอวี) เพิ่มให้ศูนย์ศรชลเขต 3 ศูนย์ สำหรับใช้ตรวจติดตามเรือประมงที่ผิดกฎหมายนอกน่านน้ำ และปรับอัตรากำลังพลของศูนย์เข้าออกเรือให้เหมาะสมกับภาระงานและขับเคลื่อนการทำงานศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสให้เป็นรูปธรรม โดยผู้ปฏิบัติงานที่ศูนย์จะมีอำนาจในการลงนามใบอนุญาตหรือสัญญาให้จบในที่เดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวประมง ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร เน้นให้ทุกส่วนปฎิบัติหน้าที่อย่างจริงจังในเรื่องที่เร่งด่วนและกระทบต่อการส่งออกสัตว์น้ำ ยกระดับมาตรฐานการทำประมงให้สอดคล้องกับสากลเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประเทศกลับมา รวมทั้งการใช้แรงงานภาคประมงที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือแรงงานภาคบังคับและการรับส่วยทำประมง ต้องไม่ให้มีเด็ดขาด เพื่อให้ผ่านการประเมินเรื่องไอยูยูให้ได้

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบจัดการเรือประมงที่ผิดกฎหมาย โดยพบว่ามีเรือที่ไม่พบเจ้าของ 415 ลำ เรือที่ถูกออกหมายจับ 150 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกใบอนุญาตการทำประมงพาณิชย์ ปี 2561-2562 ซึ่งมีผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตทำประมง จำนวน 10,765 คำขอ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบการเข้าออกของเรือตามที่ยื่น นอกจากนั้นจะเน้นการทำประมงให้เข้มข้น มีการอบรมเจ้าหน้าที่ศูนย์เข้าออกเรือประมง 32 แห่ง และชาวประมง 8,500 คน เพื่อให้เข้าใจกฎหมายใหม่ที่ออกมาบังคับใช้ และจะเพิ่มความเข้มข้นการตรวจพิสูจน์ทราบที่มาการนำเข้าสัตว์น้ำ ซึ่งสหภายุโรป(อียู)ให้ความสำคัญเรื่องที่มาของสัตว์น้ำ โดยจะประสานกับองค์การจัดการระดับภูมิภาคประเทศที่เกี่ยวข้องในการร่วมตรวจสอบข้อมูลสัตว์ที่นำเข้า ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้น

 


ที่มา มติชนออนไลน์