อมรัตน์ ชี้ควรยกเลิกประกาศห้ามขายเหล้าวันพระ คำสั่งจากยุครัฐประหาร

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุ

อมรัตน์ชี้ควรยกเลิกประกาศห้ามขายเหล้าวันพระ คำสั่งจากยุครัฐประหาร ไม่ค่อยมีเหตุผล ต้องรื้อทำใหม่ 

วันที่ 3 มิถุนายน 2566 มติชนรายงานว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แสดงความคิดเห็นถึงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ โดยระบุว่า

ควรยกเลิกประกาศคำสั่งที่ไม่ค่อยมีเหตุผลนี้ หรือแก้ไขให้เหมาะสมเพราะ 1.ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่ควบคุมการดื่ม เช่น ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ 2.ประเทศเราไม่ได้มีแต่ชาวพุทธ แต่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และ 3.แทบไม่มีบังคับใช้ในต่างประเทศ และกฎหมายนี้ต่อยอดมาจากกฎหมายเก่าเกือบ 50 ปีก่อน

ก่อนหน้านี้ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ว่าที่ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ผู้นำการยื่นข้อเสนอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อปลดล็อกการผลิตสุรา เบียร์ โพสต์ข้อความเล่าที่มาทางการเมือง กฎหมาย ของการห้ามขายสุรา เบียร์ วันพระใหญ่ โดยระบุว่า

เมื่อวันพระใหญ่วนมาถึง ผมก็มักจะได้ยินเสียงบ่นจากมิตรสหายรอบข้างหลาย ๆ ท่านทุกทีว่า “วันหยุดทั้งที หาเครื่องดื่มดี ๆ ที่ตัวเองชอบกินไม่ได้เลย” วันนี้ผมเลยอยากมาเล่าประวัติเกี่ยวกับกฎหมายการ “ห้ามขายเหล้าในวันพระ” กันสักหน่อยครับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นับว่าเป็นกฎหมายฉบับสุดท้ายที่ออกในสมัยของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาที่แต่งตั้ง 100% โดยคณะรัฐประหาร ปี 2549 ก่อนที่เราจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 23 ธันวาคม 2550

โดยจากบันทึกการประชุมครั้งที่ 74/2550 วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2550 มีกฎหมายผ่าน [สภาตรายาง] แห่งนี้ รวมทั้งสิ้น 27 ฉบับ เริ่มประชุมกันตั้งแต่ 10.45 น. ก่อนที่จะจบพักการประชุมในเวลา 22.45 น. คิดเป็นเวลาการประชุมรวมทั้งสิ้น 12 ชั่วโมง หรือ 720 นาที ซึ่งสภาแห่งนี้ใช้เวลาพิจารณาร่างกฎหมายฉบับละ 26 นาทีเศษเพียงเท่านั้นเอง

ผลการกระทำในตอนนั้นทำให้ต่อมาประเทศเรามีข้อกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์มากมาย ซึ่งมาตราที่ดังที่สุดคงจะหนีไม่พ้นมาตรา 32 ที่ว่า ”ห้ามโฆษณา” ที่ทุกท่านรู้จักกันดีอยู่แล้วว่ามีปัญหา แต่มาตราที่ผมจะพูดถึงวันนี้ก็คือ มาตรา 28 ที่ให้อำนาจรัฐมนตรีมากำหนดวันเวลา เงื่อนไข การขายได้ สุดท้ายแล้วในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ได้มีการออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ห้ามขายเหล้าในวันพระ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรานี้

ก่อนที่ต่อมาหลังการ รัฐประหาร 2557 รัฐบาลประยุทธ์จึงออกประกาศให้สำนักนายกรัฐมนตรีขันนอตการห้ามขายสุราให้แน่นขึ้นไปอีก โดยห้ามขายทั้งในโรงแรมและเพิ่มการห้ามขายในวันออกพรรษาเข้าไปด้วย

หากนึกภาพตามที่ผมเล่ามา นี่ถือเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกท่านไม่สามารถหาเครื่องดื่มเย็น ๆ ชื่นใจดื่มได้ในวันหยุดชิล ๆ แบบนี้

แค่เพราะว่า “เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ” อย่างนั้นหรือ “เราถึงต้องห้ามขายเหล้าเบียร์ในวันนี้ด้วย” การใช้หลักศาสนามาเป็นเหตุผลในการออกกฎหมายนี้ ผมคิดว่าเป็นการไม่ชอบ และเป็นการขัดต่อหลักเสรีภาพในการนับถือศาสนา (ม.31) และเสรีภาพในการประกอบอาชีพ (ม.40) ตามรัฐธรรมนูญด้วย

ผมมีข้อสังเกตว่า ถ้าหากเราออกกฎหมายโดยใช้หลักศาสนามาเป็นเหตุผลว่ากลัวคนทำผิดศีลข้อห้ามทางศาสนานั้น ทำไมเราถึงไม่บัญญัติให้การกระทำของพระภิกษุที่ทำผิดศีลเป็นความผิดทางกฎหมายด้วยไปเลย

ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น คนไทยมิได้มีแค่คนที่นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น แต่สังคมเราเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ประกอบไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ ความเชื่อ ดังนั้น รัฐเราควรดำรงค์ตนเป็นรัฐฆราวาส (secular state) ไม่ควรเอากรอบคิดของศาสนาใดศาสนาหนึ่งมากำหนดเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษแบบนี้

มีใครอยากให้ยกเลิกบ้างไหมครับ สนใจลองแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ”