เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการที่ตนออกมาจำแนกประเภทของ สนช.ที่ร่วมลงชื่อเพื่อส่งร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.อาจประกอบด้วย สนช. 5 แบบ ว่า การจำแนกประเภทของตนนั้นพิจารณาจากคะแนนโหวตร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.ที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ประเด็นการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างกฎหมายดังกล่าวมีหลายคนพยายามพูดกันว่าจะไม่กระทบโรดแมป ส่วนตัวมองว่าเป็นการคาดการณ์ของตัวท่านเอง ซึ่งยังไม่มีใครรู้และตอบแทนศาลรัฐธรรมนูญได้ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร เพราะขณะนี้มีคนพูดอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาไม่นาน ไม่กระทบโรดแมป 2.ถ้าศาลวินิจฉัยว่าสิ่งนั้นขัด ก็น่าจะขัดเพียงประเด็นเล็กๆ ซึ่งเป็นการยกเหตุผลเพื่อให้คนรู้สึกว่าการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จะไม่เกิดผลกระทบใดๆ คำถามคือเราสามารถไปตอบแทนศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ คำตอบคือทุกท่านไม่สามารถตอบแทนศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญเองก็ไม่มีกรอบเวลากำหนดไว้ว่าจะต้องพิจารณาให้เสร็จเมื่อใด ดังนั้น การที่บอกว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะพิจารณาเร็วเป็นการมโน เป็นการคาดการณ์เอง เพราะจะไปบังคับศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาได้อย่างไร เช่นเดียวกับการที่บอกว่าหากเรื่องนี้ขัดก็น่าจะขัดในประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ไม่ทำให้กฎหมายตกไป ก็เป็นการมโนเช่นกัน เพราะเราไม่สามารถตอบแทนศาลรัฐธรรมนูญได้
“เราคาดการณ์ล่วงหน้าทุกอย่างไม่ได้ว่าศาลจะพิจารณาเร็วหรือไม่และคาดการณ์ไม่ได้เช่นกันว่าผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร เพราะแม้แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่านยังตอบไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะผลการพิจารณาต้องใช้มติขององค์คณะตุลาการฯ” นายสมชัยกล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์
