“บิ๊กตู่” ขอบคุณอินโดนีเซีย สนับสนุนแก้ปัญหาไอยูยู-ภาคใต้

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับพล.อ.ลูฮุท บินซาร์ ปันด์จัยตัน (H.E. Gen. Luhut Binsar Pandjaitan, Retired) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานด้านกิจการทางทะเลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย พร้อมด้วยผู้ว่าการธนาคารอินโดนีเซีย เพื่อนำส่งสารเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม ASEAN Leaders’ Gathering จากประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดย ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือถึงความร่วมมือด้านประมงซึ่งฝ่ายไทยได้ย้ำถึงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับฝ่ายอินโดนีเซียเพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) อย่างรอบด้าน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่อินโดนีเซียให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแก่ฝ่ายไทยเสมอมา ในส่วนของไทย รัฐบาลได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี 2 ท่าน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ฉัตรชัย รับผิดชอบติดตามและแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โดยมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิรูปการประมงทั้งระบบอย่างต่อเนื่อง

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณที่อินโดนีเซียดูแลและมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทย รวมทั้งการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนชาวไทยในอินโดนีเซีย ซึ่งภาคเอกชนไทยเชื่อมั่นในศักยภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและโอกาสขยายการลงทุนในอินโดนีเซียอย่างมาก พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงความร่วมมือสินค้าเกษตร ทั้งยางพาราและน้ำมันปาล์ม และขอให้อินโดนิเซียพิจารณาสนับสนุนลำไยของไทย พร้อมขอบคุณอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสำคัญใน OIC ที่เข้าใจและให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยมาโดยตลอด

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานด้านกิจการทางทะเลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กล่าวถึงวัตถุประสงค์สำคัญในการเดินทางมาเยือนไทยครั้งนี้ เพื่อมอบสารจากประธานาธิบดีอินโดนีเซียเชิญนายกรัฐมนตรีพิจารณาเข้าร่วมการประชุม ASEAN Leaders’ Gathering ในวันที่ 11 ตุลาคม 2561 ที่เกาะบาหลี ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับสารเชิญดังกล่าว และกล่าวชื่นชมบทบาทของอินโดนีเซียในอาเซียน และเชื่อมั่นในภราดรภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียนจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะได้หารือกันในรายละเอียดต่อไป

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์