“ทักษิณ-สุดารัตน์” ปัญหาหัวหน้ามุ้งใหญ่ใน…เพื่อไทย

ก่อนพรรคเพื่อไทยนัดเช็คชื่อ 4 เมษายน 2561 “ทักษิณ  ชินวัตร” ปรากฏตัวคู่ “ยิ่งลักษณ์” พำนักในกรุงโตเกียว วนเวียนอยู่ใกล้เมืองไทย ให้สมาชิก-แกนนำ เข้ารายงานสถานการณ์การเมืองที่ระอุทั้งใน-นอกพรรค  ยิ่งเข้าสู่ฤดูกาล-แห่งการเลือกตั้ง ยิ่งทำให้วงโคจรของ “ทักษิณ” ยิ่งหมุนรอบการเมืองไทย

ทว่าวาระ “ต้องห้าม” ที่ “ทักษิณ” ไม่ต้องการรับฟัง-รับพิจารณา มากที่สุดในเวลานี้ โดยอ้างว่า อยู่ในภาวะ “บิ๊กดาต้า ..ข้อมูลล้น” คือเรื่องที่ว่าด้วย “คุณหญิง” ที่จะขึ้นเป็น “หัวหน้าพรรค” หรือเคลื่อนไหวเข้าสู่ 1 ใน 3 บัญชี “ว่าที่นายกรัฐมนตรี” จากพรรคเพื่อไทย

กระนั้นก็ยังมีบุคคลที่มี “ตั๋วพิเศษ” จากครอบครัว “นริพทะพันธ์” ที่เข้าหารือกับ “ทักษิณ” ได้ทุกวาระ-ทุกแห่งในแผนที่โลก ที่ “ทักษิณ” โคจรไปถึง

จนเกิดวิวาทะ “เด็กรุ่นใหม่”  นายพชร นริพทะพันธุ์ ไม่เห็นด้วยกับ คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์ แกนนำพรรค กรณี “พรรคติดหล่ม” และปัญหาของ “บางคนเลือกที่จะหลงสถานะตัวเอง อ้างเหตุผลด้านศาสนา ความดี เพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเอง จนทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ทั้งที่ธรรมชาติของนักการเมืองต้องต่อสู้ การเมืองย่อมเป็นการเมือง มีทั้งสวยงาม และด้านมืด เป็นปกติการถกเถียง และต่อสู้ประเด็นต่างๆ เป็นความจำเป็น”

นายพานทองแท้  ชินวัตร ในฐานะ “ผู้ใหญ่ของพรรค” ต้องออกมาหย่าศึก จึงต้องแตกยะย่าย-แยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง

ระหว่างที่ปัญหา “หัวหน้าพรรค” ยังไม่มีวันที่จะ “ลงตัว” ท่ามกลางกระแส-สไตล์การบริหารพรรคใหม่ ที่ “ทักษิณ” อาจกลับไปใช้นโยบาย “แยกมุ้ง” โดยจะเปิดให้แกนนำตั้งมุ้งเสรี

กับอีกแนวทางคือ ให้ผู้มีบารมีรุ่นใหญ่ออกไปตั้งพรรคใหม่ แล้วกลับมารวมเสียงกันในสภาผู้แทนราษฎร และการจัดตั้งรัฐบาล โดยเพื่อไทย ยังคงเป็นแกนนำ

เงื่อนไขใหม่-สุดารัตน์ ไม่ได้เป็นสมาชิกเพื่อไทย

เป็นที่รู้กันอย่างทั่วไปว่า สไตล์พลังประชาชน-เพื่อไทย หลังยุบพรรคไทยรักไทย ไม่มีใครอยากเป็น “หัวหน้าพรรค” เพราะกลัว “คดียุบพรรค” และการถูกตัดสิทธิทางการเมือง

กระทั่งบางคนแม้เป็นแกนนำพรรค ก็ยังไม่เคยมีชื่อปรากฏเป็น “สมาชิกพรรค” มาตั้งแต่พ้นโทษการเมืองจากถูกตัดสิทธิ 5 ปี (2551-2555)

คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธ์ คือ 1 ในหลายคนในเพื่อไทย ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค!!

บรรดาลูกหาบของเจ้าแม่เมืองกรุง จึงมักสนทนาออกตัวกันว่า ผู้นำหญิงของเขาจะเป็นแคดิเดท 1 ใน 3 บัญชีว่าที่นายกรัฐมนตรี มากกว่าที่จะเป็น “หัวหน้าพรรค”

กระนั้น “คุณหญิงสุดารัตน์” ยังต้องเผชิญกับปัญหา “กลับไม่ได้-ไปไม่ถึง” เพราะระหว่างวันที่ 1-30 เมษายนนี้ ตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง ก.ก.ต. จะเปิดให้เปิดให้เฉพาะสมาชิกพรรครายเก่ายืนยันตัวตนเท่านั้น และยังไม่มีกำหนดว่าจะให้พรรคการเมืองรับสมัครสมาชิกหน้าใหม่ได้วัน-เวลาใด

สถานภาพเช่นนี้ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกหยิบยกขึ้นเป็นกรณี “คนนอก” เข้ามายุ่งเหยิง “ในพรรค” หรือเข้าข่ายครอบงำ นำไปสู่การตีความไปในทาง “ลบ” กับเพื่อไทยอย่างยิ่ง

วาดะห์-พรรคประชาติ สัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงของเพื่อไทย

ในช่วงเทศกาลตรุษจีนทีมที่เชียร์ คุณหญิงสุดารัตน์ และทีมต้าน คลาคล่ำอยู่รอบตัว “ทักษิณ” ย่านกรุงปักกิ่ง

ไม่แพ้ในช่วงเดือนมีนาคม ก่อนยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคในเดือนเมษายน ก็มีข่าวหนาหูว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ผู้นำกลุ่มวาดะห์ มีคิวเดินทางไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เช่นเดียวกัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีคิวแทรก จุดหมายปลายทางเดียวกัน

ในกระแสข่าว “พรรคมุสลิม” ที่ก่อร่างสร้างตัวในพื้นที่อย่างเข้มข้นมากว่า 3 ปี นับแต่วันก่อนโหวต “คว่ำประชามติ” รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560

แต่แล้ว ก็มีการยื่นจดทะเบียน “พรรคประชาชาติ”  โดยมีหัวหน้าพรรค ชื่อ “สุรพล นาควานิช” อดีตคนใกล้ชิด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์

แผนการที่จะแต่งตัวตั้งพรรคมุสลิม ถูกพับเข้าลิ้นชัก นายสุรพล ให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มวาดะห์  “กำลังแต่งตัวทางการเมือง เพื่อเข้าร่วมงานกับพรรคประชาชาติ” ขณะที่ ทั้งนายวันมูหะมัดนอร์ และนายซูการ์โน น้องชาย ส่งสัญญาณชัดว่า “กลุ่มวาดะห์จะเข้าร่วมพรรคประชาชาติทั้งหมดทุกคน…สิ้นเดือนเมษายน ทุกคนก็จะสิ้นสถานภาพสมาชิกพรรคเพื่อไทย”

เป็นการปิดฉากลุ่มวาดะห์ ที่อยู่คู่ “พรรคทักษิณ” มากว่า 1 ทศวรรษ  

“สะสมทรัพย์” ไม่ไปต่อกับเพื่อไทย

ท่ามการต่อสายกันอย่างร้อนรน ระหว่างแกนนำในรัฐบาลคสช. เพื่อเสียบปลั๊ก ก๊กการเมืองเก่า เข้ากับพรรคใหม่ในเงาทหาร

อาหารคาวมื้อค่ำ-ไปจนถึง “บิสสิเนส ลั้นซ์” มีคิวที่นักการเมืองไปร่วมวงกันต่อเนื่อง

แต่วาระเช็คชื่อสมาชิกเพื่อไทย ในวันที่ 4 เมษายน 2561 อีกก๊กใหญ่ ที่อาจไม่ไปปรากฏตัว คือบ้านใหญ่นครปฐม จากตระกูลการเมือง “สะสมทรัพย์”

“เผดิมชัย สะสมทรัพย์” ให้สัมภาษณ์ตีความได้ว่า “วันที่ 4 เมษายน ทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน ในเมื่อยังไม่แน่ใจ ก็ยังไม่จำเป็นต้องรีบแสดงตัว...แก่แล้วไม่อยากเสี่ยงทางการเมือง”  

ไม่ควรลืมว่า การเปิดจดทะเบียนพรรคใหม่นั้น เปิดไปจนถึง 31 มีนาคม 2561 เท่านั้น หากในเดือนเมษายน มีการ “ยุบพรรค” การเมืองเก่า พรรคใดพรรคหนึ่ง และไม่มีพรรคอะไหล่ให้สังกัด อาจเกิดภาวะป่าช้าแตก!

อีกทั้งการนับคะแนนระบบเขต-ระบบปาร์ตี้ลิสต์ แบบใหม่ “ทำให้มีความนิยม อาจไม่ได้เป็นส.ส.หรือคนหาเสียงไม่ได้เป็น คนได้เป็นส.ส.ไม่ได้หา”

ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 ของพรรคเก่า-พรรคใหม่ และพรรคขนาดใหญ่-ขนาดกลาง มียุทธวิธี “เอาเสียง” จาก 2 บัญชี ต่างกัน

พรรคใหญ่ ย่อมหวังคะแนนจาก ส.ส.เขตเป็นหลัก ขณะที่พรรคกลาง-เล็ก-ใหม่ หวังได้คะแนนจากบัญชีรายเชื่อเป็นฐานสำคัญ

สิ่งแวดล้อมทางการเมืองเปลี่ยนไปแบบกลับหัว-ตีกลังกา ขณะที่ “ความเชื่อ” และ “บิ๊กดาต้า” ของ “ทักษิณ” ยังวนอยู่ใน “ถังข่าว” แบบเดิมๆ ที่ว่า หากเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยจะชนะแบบแลนด์สไลด์…อีกครั้ง