“บิ๊กตู่” ร่วมถกผู้นำภาคธุรกิจลุ่มน้ำโขง พร้อมยึดผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำภาคธุรกิจ (Business Summit) ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 เวลา 17.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติเวียดนาม พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำภาคธุรกิจ (Business Summit) ซึ่งเป็นการประชุมคู่ขนานกับการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6 ณ กรุงฮานอย ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2561

โดยการประชุมระดับผู้นำภาคธุรกิจ (GMS Business Summit) ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การค้นหาปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ” (In Search for New Drivers of Economic Growth) การจัดการประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นโอกาสแก่ผู้นำ หัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนภาคเอกชน และผู้แทนภาคการศึกษา ที่จะแลกเปลี่ยนแนวทางในประเด็นการพัฒนาในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นโอกาสในการหารือเพื่อแนวทางในการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้ ในโอกาสการประชุมระดับผู้นำภาคธุรกิจนี้ มีผู้นำประเทศสมาชิก และผู้แทนระดับสูงเข้าร่วม ดังนี้ นายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม สมเด็จมหาอัครเสนาบดี ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีลาว นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน รองประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นายทาเคฮิโกะ นากาโอะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย

พล.ท.วีรชนกล่าวต่อว่า ในโอกาสการเข้าร่วมการประชุมนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงให้ความสำคัญ นวัตกรรม และ เทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ในภูมิภาค ซึ่งในขณะเดียวกันรัฐบาลต้องมีนโยบายเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดรับกับเทคโนโลยีดิจิทัล และ startup โดยรัฐบาลไทยได้ส่งเสริมปัจจัยขับเคลื่อนเหล่านี้ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 และโครงการ EEC

และยังระบุว่า นายกรัฐมนตรีต้องการสร้างพลังขับเคลื่อนในอนุภาค เพื่อเชื่อมโยง โครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ ให้เป็นระบบเดียวกัน จาก GMS ถึง อาเซียน ถึง เอเชีย และถึงโลก เพื่อส่งเสริมการลงทุน ซึ่งไทยยินดีที่จะใช้หลักการส่งเสริมการลงทุน Thailand +1


อย่างไรก็ดี ความร่วมมือทั้งหมดจะต้องมีภายใต้หลักการ 3M การไว้เนื้อเชื่อใจ ความเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน และจะละทิ้งหลักมนุษยชนไม่ได้ กลุ่มสมาชิก GMS จะได้เดินไปข้างหน้า ก้าวหน้าไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง