
เหตุอุกอาจลูกน้องกำนันดังปลิดชีพเผาขน “นายตำรวจน้ำดี” ที่เกิดเหตุ จ.นครปฐม เขย่าขวัญ-สั่นสะเทือนไปถึงทำเนียบรัฐบาล-กระทรวงมหาดไทย จน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการ ต้องออกมาแอ็กชั่น ประกาศขึ้น “บัญชีดำ” ผู้มีอิทธิพลทันควัน
เมื่อผู้เกี่ยวข้องอยู่ในตำแหน่งที่ขึ้นสายบังคับบัญชาในกระทรวงมหาดไทย ทำให้เจ้ากระทรวง “มท.1-อนุทิน” ประกาศถอนรากถอนโคนเจ้าพ่อ-มาเฟีย ยื่นดาบอาญาสิทธิ์ ให้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ได้โชว์ฝีมือ-พิสูจน์ผลงาน
คู่ขนานไปกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แคนดิเดต “ผบ.ตร.คนใหม่” ที่เข้าไปรับประกาศิตจาก “เศรษฐา ทวีสิน” ประมุขตึกไทยคู่ฟ้าถึงในบ้านพิษณุโลกให้ล้างบางผู้มีอิทธิพล-ทำสงครามกับยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล กวาดล้างปืนเถื่อน-อาวุธสงครามภายใน 6 เดือน ตรึงเครื่องมือหาเสียงป้องปรามการแผ่บารมีของนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ต่อเนื่องสมัยรัฐบาลผสมนักเลือกตั้ง ได้แต่งตั้ง “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยเป็น “เจ้าภาพ”
ย้อนไปนานกว่านั้น ในสมัยรัฐบาล คสช. ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นหัวเรือใหญ่ในการปราบผู้มีอิทธิพล
ครั้งนี้ภารกิจปราบมาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล ตกอยู่ในมือมหาดไทย-พรรคภูมิใจไทย แบบยากที่จะหลีกเลี่ยง
ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ถูกประทับไว้ในภาพจำ ว่ายากที่จะแยกจากผู้มีบารมี-อิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี
ประกอบกับในพรรคภูมิใจไทยเองเต็มไปด้วย “นักการเมืองบ้านใหญ่” ทั้งตระกูลช่างเหลา บ้านใหญ่โพธิ์สุ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล-แซ่จึง-เพ็งนรพัฒน์ ตระกูลสรรณ์ไตรภพ บ้านใหญ่ซารัมย์ บ้านใหญ่ทองศรี-รัชกิจประการ
บ้านใหญ่ด่านชัยวิจิตร ตระกูลชีวานันท์ ตระกูลคลังผา ตระกูลจิระพันธุ์วาณิช-เหลืองขจรวิทย์ ตระกูลประเสริฐโสภา และบ้านใหญ่ไกรคุปต์ ตระกูลสงฆ์ประชา บ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ บ้านใหญ่ช่างพินิจ บ้านใหญ่วิลาวัลย์ บ้านใหญ่โพธิพิพิธ
เมื่อมีนโยบายปรามผู้มีอิทธิพล จึงยากที่จะไม่กระเทือนบ้านใหญ่ผู้มากบารมีในทางอ้อม
ที่ถูกจับตาคงหนีไม่พ้น นักการเมืองบ้านใหญ่ พรรคชาติไทยพัฒนา “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” แห่งจังหวัดนครปฐม
ส่วนบ้านใหญ่มากบารมีเก่าแก่ จังหวัดอื่น ๆ ก็ล้วนต้องใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ทั้งเครือข่าย “บ้านใหญ่ศิลปอาชา” และตระกูลบริวาร ทั้ง โพธสุธน-ประเสริฐสุวรรณ-เที่ยงธรรม และตระกูลสุจิตต์
กลุ่มนักการเมืองบ้านใหม่ ที่ถือเป็นคู่แข่งกับพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ภาคใต้ ที่มี สส.ในสภา มีทั้งในพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ บ้านใหญ่เดชเดโช บ้านใหญ่โล่สถาพรพิพิธ และตระกูลตั้งปอง
รวมถึง “กลุ่มอำนาจใหม่” พรรคประชาธิปัตย์ อย่างบ้านใหญ่เดชอิศม์ ขาวทอง ตระกูลบุญญามณี บ้านใหญ่ธรรมเพชร ตระกูลขำนุรักษ์ และตระกูลปาลาเร่
บ้านใหญ่แห่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย บ้านใหญ่จุลใส บ้านใหญ่ธรรมเพชร ตระกูลวิชัยกุล บ้านใหญ่กาญจนะ บ้านใหญ่ยาวอหะซัน แห่งจังหวัดชายแดนภาคใต้
และยังมีบ้านใหญ่ภาคตะวันออก-บ้านใหม่ชมกลิ่น บ้านใหญ่ปากน้ำโพ-ตระกูลสุนทรเลขา บ้านใหญ่นพอมรบดี ตระกูลวงษ์พิทักษโรจน์ รวมถึงบ้านใหญ่ของแม่เลี้ยงติ๊ก-ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และบ้านใหม่ปากน้ำอย่าง ตระกูลเทียนสุวรรณ
พรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย มีบ้านใหญ่-เก่าแก่ อาทิ บ้านใหญ่เตชะธีราวัฒน์ ตระกูลเชื้อเมืองพาน บ้านติยะไพรัช บ้านใหญ่บูรณุปกรณ์
และบ้านใหญ่อมรวิวัฒน์ บ้านใหญ่ไชยณรุณ บ้านใหญ่โล่ห์สุนทร บ้านใหญ่จันทรสุรินทร์ ตระกูลพงษ์มณี-มณีรัตน์ บ้านใหญ่ทิมสุวรรณ-พัฒนชัยกุล
กินแดนไปถึงภาคอีสาน โดยเฉพาะอีสานใต้ ที่ประกาศเป็นเอกราช ไม่เป็นเมืองขึ้น “บุรีรัมย์บุรี” อย่าง ตระกูลสังข์พุ่ม และบ้านใหญ่เสี่ยแป้งมันแห่งตระกูลหวังศุภกิจโกศล ที่แปรพักตร์-ปลดแอกจากภูมิใจไทย มานั่งเก้าอี้ตัวใหญ่เป็นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ใน ครม.เศรษฐา 1
ตามด้วยตระกูลศรีวรขาน บ้านใหญ่จันทรรวงทอง ตระกูลจรัสเสถียร-คลังแสง บ้านใหญ่ศิริพานิชย์ และตระกูลติณรัตน์ บ้านใหญ่ตั้งปณิธานนท์ ตระกูลสินธุไพร ตระกูลนาเมืองรักษ์ และตระกูลคงเพชร ตระกูลเวชกามา
ต่อขบวนด้วยตระกูลจันทาทอง บ้านใหญ่อินทร์รอด ตระกูลพรหมา บ้านใหญ่กัลป์ตินันท์ ตระกูลพิทักษ์พรพัลลภ ตระกูลเชื้อคง ตระกูลสาราคำ ตระกูลชัยนิคม ตระกูลเมนะสวัสดิ์
แม้ฉายาเจ้าพ่อภาคตะวันออก จะติดตัวมาตั้งแต่ยุคกำนันเป๊าะ-สมชาย คุณปลื้ม แต่บารมีก็ส่งผ่านมาถึงบ้านใหญ่คุณปลื้ม ร่วมด้วยบ้านใหญ่ตันเจริญ และตระกูลวงษ์ประยูร
ขณะที่พรรคบ้านใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีเครือข่ายอำนาจบ้านป่ารอยต่อ ฝ่ากระแส “ไม่เอาลุง” เข้ามาได้ 40 สส. มีบารมีของบ้านใหญ่เทียนทอง นำขบวน ตามด้วยตระกูลพรหมเผ่า และตระกูลในเครือญาติ ทั้งศรีวิราช-จีนาคำ และบ้านใหญ่ “คนเมืองสิงห์” อย่างตระกูลธนาคมานุสรณ์-นิติกาญจนา
รวมทั้งตระกูลดังที่ถูกจับตา “ลิกค์-อาภรณ์รัตน์” แห่งบ้านใหญ่กำแพงเพชร บ้านใหญ่พร้อมพัฒน์ แห่งจังหวัดเพชรบูรณ์ และบ้านใหญ่อัศวเหม คุมกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า
นโยบายกวาดล้างมาเฟีย-ผู้มีอิทธิพล ถูกประกาศเป็นนโยบายร้อน ของทุกรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาล “เศรษฐา 1” มีความปรากฏ-เหตุการณ์เชิงประจักษ์ เกิดคดียิงตำรวจในบ้านกำนันผู้มีอิทธิพล ที่ครึกโครมที่สุด หลังรัฐมนตรีมหาดไทยเข้าประจำกระทรวง
- 3 ปี รัฐธรรมนูญใหม่เพื่อไทย ประชามติ-เลือก ส.ส.ร. ใช้งบ 1.3 หมื่นล้าน
- ไฮไลต์ แถลงนโยบายรัฐบาล เศรษฐา นินจา-ล่องหน–เบาหวิว-หลงทิศทาง
- แจกเงินดัน “ขาดดุลแฝด“ หนี้ประเทศพุ่ง-จีดีพีโตไม่ยั่งยืน
- สุริยะ-สมศักดิ์ นักการเมืองพันล้าน หาเสียง สว.โหวตนายกฯเพื่อไทย
- เปิด 5 นโยบายเร่งด่วน คำแถลงนโยบาย รัฐบาลเศรษฐา 1