เมื่อวันที่ 3 เม.ย. เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ในวันนี้ ถึงกรณี การขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่บอกว่ามีคนรับรู้เพียง 40% ต้องยอมรับว่าคนไทยจะสนใจเเต่เรื่องที่ตนเองเกี่ยวข้อง บางเรื่องจึงไม่รู้เรื่อง ในส่วนนี้ต้องดูด้วยว่าไปถามใคร
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
หากจะถามเรื่องโครงการไทยนิยม ให้ไปถามคนในพื้นที่ ขณะนี้คนในพื้นที่ที่รวบรวมมาเเล้ว ที่รับฟัง ร่วมมือในการทำของทุกหมู่บ้านกว่า 95,000 หมู่บ้าน มาเเล้วประมาณ 10 ล้านคน ต้องไปถามตรงนี้ จะได้รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของประชานิยม
“มานั่งคุยกันเเล้ว วันนี้ถอดความสำคัญออกมาประมาณ 50% เขาต้องการให้ปรับพื้นฐาน เช่น ลาดยางถนน ทำถนนให้ใช้การได้ตลอดปี เพื่อให้เกิดมูลค่า สัญจรไปมา ค้าขายได้สะดวก ส่วนอีก 50% ต้องมาดู ถ้าใช้เงินไทยนิยมอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องไปดูในเรื่องการใช้งบประมาณ ปี 2561-2562 ว่าปรับเเผนงานโครงการได้ไหม เพราะใช้งบจำนวนมาก ในส่วนที่สองยังมีเรื่องสาธารณะสุขประมาณ 8% เรื่องเกษตรกว่า 10% เเละเรื่องอื่นๆอีกกว่า 10%”
เห็นได้ว่า ให้น้ำหนักในเรื่องของการสัญจรไปมา ก็ต้องไปปรับแผนใหญ่ของเราอีกที เรื่องของน้ำต่างๆ การทำงานไม่ใช่ว่าจะแก้ได้ทันที ต้องทำในเรื่องของโครงสร้างให้ได้ก่อน ถึงจะไปเพิ่มมูลค่าได้ ทำให้การเกษตรดีขึ้น แต่ต้องมีการเรียนรู้วิทยาการใหม่ๆ เทคโนโลยี การค้าขายออนไลน์ ดิจิทัล ต้องรู้เรื่องพวกนี้ ซึ่งรัฐบาลก็เข้าไปเสริมตรงนี้เเละสร้างความเข้มแข็ง จะสอดคล้องกับกรณีผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะดูเเลให้คนกลุ่มนี้ดูแลครอบครัวตนเองได้