“เศรษฐา” แนะ วปอ. คอนเน็กชั่น เป็น “อภิสิทธิ์ชน” เป็น Top 1% ของประเทศ วิงวอน ช่วยเหลือคนตัวเล็ก-เพื่อนร่วมชาติ พ้นจากความยากจน ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลาน
วันที่ 14 กันยายน 2566 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธานรับฟังการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติของสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ โดยมี นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ผู้บริหาร คณาจารย์ นักศึกษา เข้าร่วมรับฟัง
นายเศรษฐากล่าวว่า แสดงความยินดีกับผู้ที่จบการศึกษา จากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นสถาบันที่ทรงเกียรติ ล้วนเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ บางคนประสบความสำเร็จเป็นผู้บริหาร เป็นผู้นำองค์กร ทั้งในภาครัฐและเอกชน เป็นไปได้ว่าบางคนในที่นี้ อาจจะได้มายืนอยู่ในจุดที่ตนเองยืนอยู่ตรงนี้ในอนาคต หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากหลักสูตรที่จบลงไป และจะสามารถนำความรู้จากที่นี่ ไปสร้างประโยชน์ต่อไปในอนาคต ซึ่งตนเองไม่ได้มีโอกาสที่ได้เข้าศึกษาในสถาบันแห่งนี้
“นอกจากเนื้อหาวิชาความรู้ สถาบัน วปอ. ยังพาทุกคนมาทำความรู้จักกันและกันทำกิจกรรมร่วมกัน เกิดเป็นสมาคม สร้าง Communities และกลายมาเป็น Connection ของทุก ๆ คนในที่นี้ ความแข็งแกร่งของเหล่าศิษย์เก่า เป็นที่ประจักษ์ในสังคมไทย เส้นสายสัมพันธ์ Connection ของพวกท่านในประเทศ ทำให้พวกท่านเป็นผู้มีอภิสิทธิ์ชน เป็น Top 1% หรือน้อยกว่า ของประเทศนี้ และ Connection จะสามารถเป็นประโยชน์ต่ออาชีพการงานของทุกท่าน ต่อธุรกิจของพวกท่าน ได้มหาศาล” นายเศรษฐากล่าวและว่า
“แต่ผมขอฝาก ขอวิงวอน ขออ้อนวอน ให้ทุกท่านใช้ความรู้ ความสามารถ และ Connection จากที่นี่ให้เกิดประโยชน์ โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรของรัฐ ไม่ใช่ใช้แต่สิทธิ ให้ดูถึงหน้าที่ด้วย ให้ดูถึงความเหมาะสม เพราะทุกสายตาในประเทศ จับจ้องท่านอยู่ เรพาะท่านเป็นบุคคลพิเศษ เป็นบุคคลที่จะมาเป็นผู้นำของประเทศนี้ในทุก ๆ ด้าน การกระทำของท่านเป็นที่จับตาดูอยู่ของทุกชนชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชน Connection ไม่ใช่ประโยชน์ของตัวท่านเองอย่างเดียว แต่ครอบครัวไปถึงองค์กรที่ท่านทำงานอยู่ ผมอยากให้เผื่อแผ่ ครอบคลุมไปถึงคนอื่นในสังคมของท่านด้วย ไม่ว่าจะเล็ก หรือใหญ่ก็ตามที” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า ตนถือวว่าเป็นหน้าที่ของพวกพวกเราทุกคน ที่จะต้องช่วยเหลือคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ช่วยเหลือสังคม ให้พวกเขายืนอยู่ในสังคมได้ในสภาวะที่ลำบากในปัจจุบัน ความสามารถของทุกท่าน หากนำมาช่วยเหลือประเทศชาติจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ความยากจน ความยากลำบากที่เพื่อนร่วมชาติของพวกเราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ และทุกท่านจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันที่ร่วมกันส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักที่ให้พวกเรามารวมกันในสถานที่อันดีเกียรติแห่งนี้