
บิ๊กโย่ง มั่นใจ ปรเมธี ไม่มีปัญหาถูกโยกข้ามห้วยนั่งปลัด พม. ยัน ครม.ไม่ทบทวนมติ หลังปลัดคลังลาออก ไม่พอใจโดนย้าย
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการออกคำสั่งให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. ออกจากราชการไว้ก่อน จากปัญหาการทุจริตงบประมาณอุดหนุนคนไร้ที่พึ่งว่า ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ คนดังกล่าว คือนายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ ในฐานะอดีตรองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) เนื่องจากถูกคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ระบุว่าข้อกล่าวหาที่ว่านายธีรพงษ์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น มีมูล จึงต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ดังนั้นตนต้องทำตามขั้นตอน ด้วยการให้นายธีรพงษ์ออกจากราชการไว้ก่อน ยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการทำตามหลักการและมติครม. ทั้งนี้หากผลการสอบสวนสุดท้ายพบว่านายธีรพงษ์ไม่มีความผิด ก็สามารถกลับมารับราชการได้
พล.อ.อนันตพร ยังกล่าวถึงข่าวที่ว่านายสมชัย สัจจพงษ์ ยื่นใบลาออก เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้โอนย้ายจากตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง ไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่ไปเป็นปลัดกระทรวง พม.ว่า เป็นไปตามกลไกของการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร ว่าใครเหมาะสมกับตำแหน่งใด ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การลาออกของนายสมชัยไม่มีผลต่อมติ ครม.ที่แต่งตั้งนายปรเมธีมาเป็นปลัดกระทรวงพม. เพราะ ครม.มีมติอนุมัติการแต่งตั้งนายปรเมธีแล้ว ตนคิดว่า ครม.คงไม่กลับไปกลับมา เมื่อแต่งตั้งแล้วก็ตั้งไป
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายสมชัยและนายปรเมธีก่อนที่จะมีมติครม.ออกมา หรือไม่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า เขาพูดคุยกันก่อนแล้ว ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันทั้งนั้น คงไม่ใช่ที่อยู่ๆ จะมีมติออกมาได้เลย โดยกรณีของนายสมชัยคงเป็นดุลยพินิจของนายสมชัยเอง ซึ่งตนไม่ทราบ เพราะเขาย้ายไป สศช.ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับตน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. กล่าวว่า กรณีของนายปรเมธีนั้น ทำได้แน่นอน ไม่ถูกโดดเดี่ยวอยู่แล้ว เขาสนิทกับตน รู้จักกันดี เขาเป็นคนเก่งและทำงานเต็มที่ จึงน่าจะเข้ามาทำให้งานด้านสังคมมีความก้าวหน้ารวดเร็วขึ้นมาก ขณะเดียวกัน งานของ สศช.ทำเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้เดินไปด้วยกันอยู่แล้ว แม้นายปรเมธีเคยเน้นงานด้านเศรษฐกิจมาก่อน แต่ตอนนี้ก็สามารถมาช่วยงานด้านสังคมบ้าง เพราะตอนนี้งานด้านสังคมเป็นสิ่งที่น่าห่วงใย ทั้งเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ งานด้านความมั่นคงอยู่ในความรับผิดชอบของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ขณะที่งานการเมืองเป็นเรื่องของรัฐบาล ดังนั้นทั้ง 3 เสานี้เป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตาม การนำคนนอกกระทรวงฯ มาเป็นปลัดพม.นั้น ตนได้พูดคุยกับคณะผู้บริหารกระทรวงฯแล้วว่า แม้จะมีผลต่อขวัญกำลังใจต่อคนในกระทรวงฯบ้าง แต่ในช่วงนี้จำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน ส่วนข้าราชการในกระทรวงฯ ตอนนี้ต้องทำใจเล็กน้อย ซึ่งเรามั่นใจว่าคนไหนที่มีความบริสุทธิ์ ไม่ถูกลงโทษ ก็สามารถทำงานต่อได้ ทุกอย่างอยู่ที่ความเหมาะสม ตนยืนยันว่าจะดูแลข้าราชการกระทรวงฯให้ดี ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตจะผลักดันให้คนในกระทรวงฯได้เลื่อนตำแหน่งโดยเร็วที่สุด
“อยากให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจว่ากระบวนการสอบสวนมีความจริงจัง เป็นขั้นตอน ขอฝากว่ายุคใหม่ของ พม. 1 พฤษภาคม ทุกคนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องความโปร่งใสในการทำงานในการจ่ายเงินอุดหนุนผ่านระบบ-อีเพย์เมนต์ เช็คเงินสด การปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กรให้ทุกคนทำงานอย่างโปร่งใส มีจิตสาธารณะ เราพยายามปรับปรุงพัฒนาองค์กรให้ดีขึ้น ขอให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจแก่คนของพม.ที่ตั้งใจทำงาน เราจะทำให้ทุกคนเชื่อถือกระทรวงพม.ได้โดยเร็วที่สุด ผมยืนยันว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีของข้าราชการพม. พม.ยุคใหม่ ใสสะอาด ทำงานด้วยจิตสาธารณะ” พล.อ.อนันตพร กล่าว
ที่มา : มติชนออนไลน์