“บิ๊กตู่” โต้ดึง “ตระกูลชิดชอบ” โอดไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น จะเอาอำนาจไปบังคับใคร

“บิ๊กตู่” โอดไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น จะเอาอำนาจไปบังคับใคร โต้ดึง “ตระกูลชิดชอบ” ไม่อยากให้ใช้ว่าดูด ต้องดูผลงานที่ผ่านมา

24 เม.ย.2561 เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันนี้ ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่าขณะนี้ คสช. เดินสายใช้พลังดูดโดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อ และห้ามนักธุรกิจใหญ่ให้ความร่วมมือกับพรรคการเมือง ว่า ตนไม่ใช่เครื่องดูดอากาศหรือเครื่องดูดฝุ่น และจะเอาอำนาจอะไรไปบังคับใคร การที่นักธุรกิจจะสนับสนุนพรรคการเมืองจะทำได้หรือไม่นั้นต้องดูกฎหมายด้วย

“ผมไม่ต้องไปห้ามใคร ถ้ากฎหมายบอกว่าทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้ ซึ่งได้มีการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อยู่เเล้ว”

ส่วนที่มีการวิจารณ์กันกันว่า ตระกูลชิดชอบ จะเป็นคิวต่อไปที่ถูก คสช. ดูดนั้น ไม่อยากให้ทุกคนใช้คำนี้ตามนักการเมืองหรือพรรคการเมือง เพราะการไปกล่าวหาว่าใครดูดใคร ต้องดูว่าผลงานของพรรคการเมืองที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ได้มีการดูเเลสมาชิกพรรคอย่างไร ได้นำความต้องการของประชาชนไปสู่การขับเคลื่อนหรือไม่ ในขณะที่พรรคของตนเองได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ก็เเล้วเเต่

ซึ่งเข้าใจว่านักการเมืองทุกคนอยากเข้ามาทำเพื่อบ้านเมือง แต่ติดที่นโยบายพรรคหรือนโยบายหัวหน้าพรรค หรือผู้สนับสนุน แต่รัฐบาล คสช. ไม่มีใครมีบทบาทเหนือเราในเรื่องนี้ จึงสามารถทำงานต่างๆ อย่างอิสระ

ใครจะดูดหรือถูกดูดเป็นเรื่องของเขา ท่านก็ดูแลสมาชิกของท่านให้ดีที่สุด ผมเคยฟังนักการเมืองพูดมาว่า การเป็นรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็อยากทำตลอด 4 ปีตามอายุรัฐบาลแต่มันทำไม่ได้มากนัก เพราะสองปีแรกยังทำดีอยู่ พอปีที่สองไปแล้วทำไม่ค่อยได้เพราะต้องเตรียมตัวยุบสภา เขาพูดกับผมแบบนี้เลย ดังนั้นต้องร่วมมือกันให้ได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ประชาธิปไตยต้องดูเสียงส่วนใหญ่และเสียงส่วนน้อย คือฝ่ายค้าน ต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่ของฝ่ายค้านได้ประโยชน์ไปด้วย มันจะได้ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การกระจายรายได้

เพราะหลายคนโทษกันไปมาว่ารัฐบาลตัดงบฯไปพื้นที่ต่างๆ และที่ผ่านมาไปเดินสายหาเสียงยังไม่ได้เลย แล้วมันเป็นไปได้ไหมที่จะพัฒนาประเทศ อยากให้ดูตรงนี้ ขอร้องรัฐบาลหน้าทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องร่วมมือกัน ให้ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ ไม่ใช่พื้นที่ฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว ดังนั้นใครจะทำงานการเมืองไม่ต้องกลัวว่าจะเลือกตั้งเมื่อใด แต่อยู่ที่จะบริหารราชการแผ่นดินอย่างไรให้โปร่งใสและเป็นธรรม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว เเละว่า

คสช. เข้ามาตรงนี้ย้ำว่า รัฐบาล ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร แต่เป็นคนกลางทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านในอดีตจนเข้ามาในสถานการณ์วันนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ต้องร่วมมือกันให้ได้ในวันข้างหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นการลงพื้นที่ตามปกติหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ลงพื้นที่ตามปกติ ไม่พบใครเป็นการส่วนตัวและไม่พบใครในที่รโหฐาน แต่พบในพื้นที่กว้างๆ พบร่วมกันกับประชาชนทั่วไป ส่วนใครจะมาต้อนรับตนนั้นก็เป็นเรื่องเจ้าบ้านที่ดี แต่ตนไม่ได้ไปตกลงการเมืองกับใครทั้งสิ้น ไม่สามารถตกลงกับใครได้เพราะยังไปไม่ถึงตรงนั้น เป็นเรื่องกระบวนการทางการเมือง อย่าเอาตนไปเกี่ยวข้อง