ผู้พันเบิร์ดควง “น้องเกี่ยวก้อย” บุกสยามฯกระตุ้นวัยรุ่น เข้าใจสัญญาประชาคม-ปรองดอง

“ผู้พันเบิร์ด” ควง “น้องเกี่ยวก้อย-ทูตปรองดอง” ลงพื้นที่สยามสแควร์วัน หวังกระตุ้นกลุ่ม” วัยรุ่น-คนทำงาน” เข้าใจสัญญาประชาคม ปูทางปรองดอง

เมื่อวันที่ 26 เมษายน บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยาม ฝั่งสยามสแควร์วัน พ.อ.วันชนะ สวัสดี หรือผู้พันเบิร์ด ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม นำน้องเกี่ยวก้อย ตุ๊กตามาสคอตสัญลักษณ์ความปรองดอง พร้อมด้วยทูตปรองดอง ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่เป็นบุคคล ลงพื้นที่แจกเอกสารสัญญาประชาคมของคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง

พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า เรามารณรงค์ให้ประชาชนได้ร่วมกันสร้างบรรยากาศของความสามัคคีปรองดองซึ่งอยู่ในข้อที่หนึ่งของสัญญาประชาคมที่พวกเราทุกคนร่วมกันคิดร่วมกันเขียนขึ้นมา พร้อมเปิดตัวแอมบาสเดอร์ สามัคคีปรองดองซึ่งเป็นน้องทหารที่ทำงานอยู่ในกระทรวงกลาโหม ซึ่งจากการลงพื้นที่ครั้งที่แล้วที่บริเวณอนุสาวรีย์ได้มีคำถาม ว่าสิ่งที่ คสช.ทำถูกต้องหรือไม่ ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศและจัดตั้งรัฐบาล ตนขอชี้แจงว่าเราได้แบ่งขั้นตอนของการดำเนินการเรื่องความสามัคคีปรองดองออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การเข้ามาของ คสช.เพื่อต้องการจัดการเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ คสช.ได้ทำสำเร็จไปแล้ว สามารถลดวุ่นวายลงไประดับหนึ่งและหายไปในที่สุด ระยะที่ 2 เมื่อเรารับทราบปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาจากความเหลื่อมล้ำในสังคม เราได้ดำเนินการปฏิรูปในทุกๆด้าน และระยะที่ 3 รัฐบาลต้องการที่จะส่งต่อเรื่องความมั่นคงยั่งยืน ต่อไปในอนาคต คือกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ

“ดังนั้นการแก้ไขปัญหาในระยะที่ 2 และที่ 3 จะดำเนินการพร้อมพร้อมกัน เมื่อมีการปฏิรูปเกิดขึ้น พร้อมทั้งกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นแต่ยังไม่สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งยังต้องอาศัยความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ในชาติ เพื่อให้การปฏิรูปยุทธศาสตร์ชาติ เห็นเป็นรูปประธรรม” พ.ท.วันชนะ กล่าว

พ.อ.วันชนะ กล่าวอีกว่า ส่วนของการเลือกตั้งก็บรรจุอยู่ในสัญญาประชาคมรวมอยู่ในข้อที่ 1 เราก็มารณรงค์ ให้ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดความเท่าเทียมกัน เช่น มีพรรคเล็กได้ให้ข้อเสนอมาว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่มีความเท่าเทียมกันในการหาเสียงซึ่งข้อปัญหาตรงนี้เราจะนำไปสู่การปฏิรูปในด้านการเมือง

“ หลังจากนี้ไปจะนำน้องเกี่ยวก้อยและคณะเข้าไปยังหน่วยทหารเพื่อให้กำลังใจทหารที่เข้ามารับใช้ชาติเพราะผมเห็นว่าทหารเหล่านั้นได้ทำหน้าที่ตามกฎหมายซึ่งไม่ว่าจะเข้ามาด้วยวิธีการสมัครใจหรือจับสลากมาก็ตามก็ถือว่าเขาได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว ส่วนคนที่จะมาแสดงความคิดเห็นนั้นขอให้แสดงความคิดเห็นด้วยความจริงใจเราพร้อมที่จะรับฟังทุกความคิดเห็น พร้อมจะนำมาแก้ไขปรับปรุงและขอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นซึ่งที่ผ่านมาการสร้างความสามัคคีปรองดองมีแนวโน้มที่ดีขึ้นซึ่งสะท้อนมาจากโครงการไทยนิยมยั่งยืน ที่ประชาชนสะท้อนปัญหาปากท้องมากกว่าปัญหาการเมือง” ผู้ช่วยโฆษกกลาโหม กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์