วันที่ 29 เมษายน 2561 เมื่อเวลา 15.00 น. ที่วัดล่ามช้าง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริษัทกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ จัดเวทีฟังเสียงอนาคตครั้งที่ 1 โดยทีมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เพื่อระดมความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องชาติพันธุ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิรูปการศึกษาสิทธิทำกินและป่าชุมชน โครงการแม่แจ่มโมเดล การพัฒนาเกษตรอินทรีย์เพื่อปรับเปลี่ยนผลผลิต เพิ่มมูลค่า และรายได้สู่ชุมชน มีนายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ตัวแทนเกษตรกร เครือ ข่ายกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายการศึกษา เครื่อข่ายประชาชน เครื่อข่ายศาสนา องค์กรเอกชน และกลุ่มเยาวชน เข้าร่วมจำนวนมาก
นายธนากร กล่าวว่า ปัญหาหนี้สินเกษตรกรของ อ.แม่แจ่ม มูลค่า 2,000 ล้านบาท หรือเกษตรกรทั่วประเทศ หากตัดงบด้านทหาร 10 % สามารถปลดหนี้ได้มาก หรือใช้วิธีปลูกป่าแลกหนี้ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่จ่ายด้วยป่าแทน ส่วนการเปลี่ยนอาชีพเกษตรกรจากพืชเชิงเดี่ยว อาทิ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำได้ยาก เพราะความเคยชิน บางส่วนเป็นเกษตรพันธะสัญญญา ต้องทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกกาแฟหรือชาแทน ส่งเสริมปลูกไม้สักเป็นป่าเศรษฐกิจ พร้อมส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อเพิ่มทางเลือกเกษตรกร เพิ่มมูลค่าผลผลิตและกระจายรายได้สู่ชุมชน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
“รัฐต้องส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ ส่งเสริมปลูกผักผลไม้แบบเกษตรอินทรีย์ หรือปลอดสารพิษ พร้อมแปรรูปผลผลิตเพิ่มมูลค่าและรายได้ และให้ประชาชนเข้าถึงบริการสวัสดิการรัฐ อาทิ การรักษาพยาบาล การศึกษา ถ้าไม่มีการศึกษาเป็นการทำลายอนาคตชาติ พร้อมส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ด้วยการเห็นใจ เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไปสู่เป้าหมาย” นายธนากร กล่าว
การผลักดันและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ ต้องกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นกลไกขับเคลื่อน เพราะรู้ เข้าใจปัญหา และความต้องการของประชาชนพร้อมปลดล็อคอำนาจบริหารจัดการจากส่วนกลาง และภูมิภาค ให้ท้องถิ่นมีบทบาท อำนาจหน้าที่ เพื่อแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ โดยลดขั้นตอนทางราชการให้มากที่สุด ไม่ใช่ศูนย์รวมอำนาจอยู่ที่รัฐบาล หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ทั้งหมด ที่สำคัญควรผลักดันและขับเคลื่อนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เชียงใหม่มหานคร เพื่อเป็นต้นแบบ หรือนำร่องการบริหารจัดการตนเอง หลังเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภา
ผู้แทนราษฏร แต่กลับถูกดองเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมา
“การกระจายอำนาจ เป็นหนทางสร้างความเท่าเทียม เข้าถึงบริการสวัสดิการรัฐและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทั้งประเทศ พรรคจึงมีแนวทางและนโยบายกระจายอำนาจสู่สังคมไทย ไม่ใช่กระจุกตัวที่ส่วนกลางเท่านั้น เพราะรัฐราชการไทยใหญ่เกินไป อืดอาด เป็นตัวถ่วงการผลักดัน หรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด” นายธนาธร กล่าว
ที่มา: มติชนออนไลน์