อนุทิน จัดทัพ-รื้อขั้ว อนุพงษ์ เคลียร์พื้นที่รับเลือกตั้งท้องถิ่น-สว.

คอลัมน์ : Politics policy people forum

การแต่งตั้ง-โยกย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัด-อธิบดี ภายใต้การกุมบังเหียนของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เจ้าของรหัส มท.1 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567

ดูเผิน ๆ เหมือนกับการย้ายสลับตำแหน่ง-หมุนเก้าอี้ ให้ครบตามกรอบ 10 ตำแหน่ง แต่ลึก ๆ ซ่อนรหัสถึงการแต่งตั้ง “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” คนใหม่ แทน “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดคนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้

10 ตำแหน่งที่โยกย้ายเก้าอี้รอบล่าสุด ประกอบด้วย 1.นายเชษฐา โมสิกรัตน์ จากผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ไปเป็นรองปลัดกระทรวง (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)

2.นายราชันย์ ซุ้นหั้ว จากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ไปเป็นรองปลัดกระทรวง (สิงห์แดง จบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์)

3.นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง จากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ) 4.นายวัชรเดช เกียรติชานน พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง (สิงห์ทอง จบรัฐศาสตร์ รามคำแหง)

5.นายสยาม ศิริมงคล จากตำแหน่งผู้ว่าฯ ไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ) 6.นายพรพจน์ เพ็ญพาส จากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน (จบวิศวะ จุฬาฯ)

7.นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าฯนครราชสีมา (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ) 8.นายสมคิด จันทมฤก จากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง ไปเป็นผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)

9.นายชูชีพ พงษ์ไชย จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน (สิงห์ดำ จบรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)

10.นายสมภพ สมิตะสิริ จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย (สิงห์ทอง จบรัฐศาสตร์ รามคำแหง)

การโยกย้ายแต่งตั้งครั้งนี้ เป็นการ “ปรับทัพ” ที่สำคัญในยุคของ “อนุทิน” เป็นการวางกำลังใหม่ เพื่อคุมกลไกการเมืองการปกครอง รองรับนโยบายการเมือง การเลือกตั้งท้องถิ่น และ การเลือกตั้ง สว.อีกไม่ไกลจากนี้

จัดทัพอธิบดี ปลัด

ย้อนกลับไปในยุคที่กระทรวงมหาดไทย มี มท.1 ชื่อ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ตั้งแต่ปี 2557-2566 เป็นยุคที่ “สิงห์ดำ” เรืองอำนาจ วางขุมกำลังรุ่นพี่-รุ่นน้อง อย่างแน่นหนาในกระทรวง โดยเฉพาะระนาบ รองปลัด-อธิบดี น้อยครั้งที่จะมี “สิงห์” จากสถาบันอื่นแทรกขึ้นมา

ทว่า ในยุค “อนุทิน” มีทั้ง สิงห์แดง-สิงห์ทอง เครือข่าย บุรีรัมย์คอนเน็กชั่น เข้ามาผสม แต่ก็ไม่ได้หักกับขั้วอำนาจเก่า “สิงห์ดำ” เสียทีเดียว ยังมี “สยาม ศิริมงคล” ยังบลัดของสิงห์ดำ เข้าไลน์มาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ยังเหลืออายุราชการอีก 10 ปี

แทน “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ที่ย้ายจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าฯนครราชสีมา

ชัยวัฒน์ เป็นสิงห์ดำที่มาจากสายกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ไม่ได้โตมาในไลน์ “สำนักงานปลัด” เหมือนสิงห์ดำที่คุมอำนาจอยู่ถึงปัจจุบัน

แต่จู่ ๆ ในปี 2557 เขาข้ามห้วยจากท้องถิ่น จ.นครราชสีมา มายืนเป็นมือขวาของ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย ในฐานะ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ก่อนจะเติบโตกระทั่งเป็นอธิบดี

ชัยวัฒน์ ถือว่า ครองเก้าอี้อาวุโสในระนาบรองปลัดกระทรวง-อธิบดี

หาก “อนุทิน” วาง ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ให้ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนต่อไป จะต้องเคลียร์เส้นทางให้ดี

ไม่เช่นนั้น อาจซ้ำรอยการแต่งตั้งปลัดกระทรวง ในยุค “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” มท.1 ผู้พ่อ ที่เคยผลักดัน “มงคล สุระสัจจะ” อธิบดีกรมการปกครอง อดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่สุดท้ายไปไม่ถึงฝั่ง เพราะถูกประท้วงเรื่องความเป็น “อาวุโส” แม้จะผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วก็ตาม

อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เลือกย้ายกลับที่มั่นเดิม จ.นครราชสีมา

สลับกับ “สยาม ศิริมงคล” ที่มานั่งเก้าอี้อธิบดี ซึ่งเติบโตในสายสำนักงานปลัดกระทรวง สิงห์ดำในกลุ่มก้อนเดียวกับ “อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์” อธิบดีกรมการปกครองคนปัจจุบัน

ขณะที่ “สมคิด จันทมฤก” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกย้ายไปเป็นผู้ว่าฯประจวบฯ ก่อนหน้านี้เป็น “สายบุ๋น” ของ “พล.อ.อนุพงษ์” ตั้งแต่ถูกดันขึ้นเป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวง จนถึงรองปลัดกระทรวง อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเคยมีข่าวสะพัดในแวดวงสิงห์ดำว่า อาจข้ามไลน์ไปอยู่ในสายศาลปกครอง

คำชี้แจง ปลัดกระทรวง

ด้าน “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า การโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา นั้นได้มีการพูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ซึ่งท่านได้ตัดสินใจเลือกในการที่จะไปดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ที่ปรากฏข่าวว่า เตะตัดขา ไม่ใช่เรื่องจริง เรามีการพูดคุยกันก่อนแล้ว มีการสอบถามกันก่อนที่จะเสนอเรื่องผ่านท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

“การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เราพิจารณาจากความเหมาะสม โดยยึดระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญ ได้มีการพูดคุยสอบถามก่อนจะมีการเสนอ”

นอกจากนี้ ได้เสนอย้าย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ซึ่งมีความรู้ความสามารถมาขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนภาพรวม ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแทน

สำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้อธิบดีท่านเก่าพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากลาออกจากราชการ จึงได้โยกย้าย นายพรพจน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยไปดำรงตำแหน่ง เพราะท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญงานด้านวิศวกรรมที่จะไปพัฒนากระบวนงานของกรมที่ดิน

โดยในส่วนของนายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ และนายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ยังหนุ่มยังแน่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน เพื่อขับเคลื่อนงานให้กับพี่น้องประชาชน

และนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอาวุโสเป็นลำดับ 2 ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ หนองคาย เนื่องจากท่านหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้ตัดสินใจที่จะดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ

นี่เป็นจิ๊กซอว์การจัดทัพ เพื่อไปสู่การจัดทัพใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่เตรียมเลือกตั้ง สว. และเลือกตั้งนายก อบจ.อีกไม่ไกลจากนี้

• เลือกตั้ง สว. จุดเปลี่ยนการเมือง พรรครัฐบาล ส่งคนชิงเก้าอี้ถ่วงดุลอำนาจ