ระวังถูกยุบพรรค! กกต. เตือน อดีต ส.ส. รับใบสั่งคนแดนไกล

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการฯ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึง การยืนยันสมาชิกของพรรคการเมืองเดิม ว่า พรรคการเมืองเดิมต้องรายงานจำนวนสมาชิกพรรค ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ค. ตามที่ กกต ได้ออกระเบียบไปก่อนหน้านี้ และเมื่อรายงานมาทาง กกต.ก็จะตรวจสอบ ความถูกต้องทางธุรการ หากไม่ถูกต้องก็จะมีการแจ้งเพื่อให้ดำเนินการแก้ไข แต่ถ้าไม่แจ้งในกำหนดเวลาก็มีโทษ แต่ไม่ถึงกับให้พรรคสิ้นสภาพ

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ส่วนจำนวนสมาชิกของพรรคการเมืองลดลงนั้น เมื่อ คสช. มีการปลดล็อค ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ก็สามารถกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้

สำหรับการจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ในขณะนี้ มีผู้ยื่นขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคแล้ว 100 กลุ่มการเมือง และมีกลุ่มการเมืองที่นายทะเบียนได้ออกหนังสือ รับแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง หรือแบบ พ.ก.7/2 แล้ว 34 กลุ่ม และมี 20 กลุ่มที่นายทะเบียนแจ้งขอให้มีการแก้ไข และมีเพียง 2 พรรคที่ยืนจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองแล้ว คือ พรรคทางเลือกใหม่ และพรรคมติประชา

อย่างไรก็ตามในจำนวน 100 กลุ่มการเมือง ที่ได้ยื่นขออนุญาต คสช.เพื่อจัดประชุมเตรียมการจัดตั้งพรรคผ่าน กกต.นั้น ได้ยื่นหนังสือแล้วทั้งสิ้น 57 กลุ่มการเมือง และ กกต.ได้ส่งให้ คสช.พิจารณา 42 กลุ่ม โดย คสช.อนุญาตแล้ว 16 กลุ่ม

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่ คสช.ไม่อนุญาต ประมาณ 20 กลุ่มการเมือง ส่วนใหญ่จะเนื่องมาจากไม่มีการระบุวัน เวลา สถานที่ในการจัดประชุมที่ชัดเจน หรือบางกลุ่มก็ขอที่จะเดินถนน เพื่อรณรงค์หาสมาชิก ซึ่งอาจมีปัญหาในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อย ที่ คสช.จะต้องเข้าไปดูแลเมื่อทุกพรรคจัดประชุม แต่เมื่อทางพรรคได้รับทราบว่า คสช.ไม่อนุญาตก็มีการแก้ไข และยื่นหนังสือกลับมาใหม่ ซึ่ง กกต.ก็ดำเนินการส่งให้ คสช.พิจารณาอนุญาตต่อไป

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีมี อดีต ส.ส. เดินทางไปหาอดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศว่า ต้องดูว่าเข้าลักษณะการครอบงำ ชี้นำโดยบุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เพราะตามกฏหมายพรรคการเมือง ไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว รวมถึงการนำเงินจากต่างประเทศ เข้ามาสู่พรรคก็ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน หากพบว่าผิดจริงตามกฎหมายกำหนดโทษ ให้ต้องยุบพรรคและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส่วนที่ขณะนี้เริ่มมีการออกรายการโทรทัศน์ในลักษณะของการหาเสียงเพื่อหวังผลของการเลือกตั้งนั้น กกต. ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังไม่อยู่ในช่วงของการควบคุมการหาเสียง จึงเป็นเรื่องของเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องระมัดระวังว่าอย่าให้ไปละเมิดผู้อื่น


ที่มา: ข่าวสดออนไลน์