“รังสิมันต์ โรม” วอน คสช. เร่งเลือกตั้ง คลายการกระจุกตัวทางเศรษฐกิจ

วันที่ 5 พฤษภาคม ที่ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและกลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดแสดงพลัง หยุดระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หยุดยื้อเลือกตั้ง โดยนายรังสิมันต์ โรม แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าจุดขายของการเลือกตั้งคือเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่าการเลือกตั้งและประชาธิปไตยจะทำให้มีความต่อเนื่องด้านนโยบายทางเศรษฐกิจหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อคือ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเขาต้องให้ความสำคัญแก่ประชาชนผู้เลือก ซึ่งก็คือต้องตอบโจทย์ด้านปากท้องและเศรษฐกิจ

ในตอนนี้แม้เรามีรัฐบาลคสช.ที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการปกครองแต่เศรษฐกิจเองก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะด้านหนึ่งก็ติดปัญหาด้านความชอบธรรมของการเข้าสู่อำนาจ ซึ่งการติดต่อกับชาติตะวันตกและประเทศอื่นๆ นั้นประเด็นนี้เป็นประเด็นด้านความชอบธรรมถือได้ว่ามีความสำคัญ

“ทั้งนี้เราก็ไม่ควรไปมองว่าการเข้าสู่ประชาธิปไตยจะนำมาซึ่งม็อบและความวุ่นวายรวมถึงความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แน่นอนว่าม็อบมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะในประเทศที่เจริญแล้ว อย่างฝรั่งเศส ก็มีม็อบและการชุมนุมตลอดเวลา แต่เขาก็ยังเดินหน้านโยบายทางเศรษฐกิจได้” นายรังสิมันต์กล่าว

ส่วนเรื่องหากมีการเลือกตั้ง หรือเปลี่ยนรัฐบาลจะส่งผลต่อความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายหรือไม่นั้น มองว่าหากเป็นนโยบายที่ประชาชนได้ประโยชน์ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่นโยบายทั้งหมดของ คสช. เป็นนโยบายที่ขาดการพูดคุยกับภาคประชาชน ถือได้ว่าผิดขั้นตอนตั้งแต่แรก

ในด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้น ปัจจุบันความมั่งคั่งไม่ได้เกิดขึ้นโดยทั่วไป แต่เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่ม แต่ถ้าเราสามารถทำให้ประชาชนทุกคนมีความมั่งคั่งขึ้นได้ นั่นหมายถึงกำลังซื้อที่มากขึ้น เรากำลังพูดถึงว่าในวันที่เราส่งออกไม่ได้เยอะ กำลังซื้อในประเทศจะมีตอบสนองเศรษฐกิจหรือไม่

มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกผู้บริหารประเทศที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน เขาถึงจะได้รับรัฐบาลที่ตอบสนองต่อความต้องการของตนอย่างแท้จริง