ไม่ยอม! บก.ลายจุดยื่นอุทธรณ์ กกต.ตีความคำว่า “เกรียน” ใหม่ ยกทั่วโลกล้วนมีชื่อแปลก

บก.ลายจุด ยื่นอุทธรณ์ กกต.ตีความคำว่า “เกรียน” ใหม่ หลังไม่อนุญาตให้ตั้งชื่อพรรคได้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ก่อตั้งพรรคเกรียน ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ กกต. เพื่อขอให้ตีความชื่อพรรคใหม่ โดยให้เหตุผลโต้แย้ง 6 ประเด็น อาทิ การพิจารณาของนายทะเบียนพรรคการเมือง ใช้พจนานุกรมคนละฉบับ โดย กกต.ใช้พจนานุกรมคำใหม่ ซึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับ แต่ทางพรรคยึดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน 2554 ที่ให้ความหมายคำว่า “เกรียน” ไว้ว่า สั้น เกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือพื้นที่ ไม่ได้มีความหมายขัดต่อความสงบเรียบร้อย ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ อย่างที่เป็นเหตุผลที่ กกต.ไม่อนุญาต ความเห็นของ กกต.จึงเป็นการคาดเดาคาดคะเนกันไปเอง และไม่ได้หมายความคำว่าเกรียนที่เป็นคำแสลงที่ใช้ในปัจจุบัน อีกทั้งในสังคมคำว่าเกรียนก็มีการใช้ไปในเชิงสร้างสรรค์ มีการนำไปเป็นชื่อรายการทีวี เช่น รายการเกรียนอัจฉริยะ ที่ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 โดยเนื้อหารายการให้เยาวชนมาแสดงความสามารถพิเศษของตนเอง หรือรายการเกรียนทีวีในเพจเฟซบุ๊ก ที่นำเสนอเรื่องท่องเที่ยว เมนูอาหาร ที่น่าสนใจ ซึ่งทาง กสทช.ก็ไม่ได้สั่งระงับ หรือห้ามใช้ชื่อรายการ นอกจากนี้ กกต.จะมั่นใจได้อย่างไรว่าชื่อพรรคในปัจจุบันจะไม่กลายไปเป็นคำแสลงในอนาคต เช่น หากตนเปลี่ยนเป็นพรรคชื่อขวดน้ำ แล้วต่อไปคำนี้กลายเป็นคำแสลงไม่ดี กกต.จะตามไปยุบพรรคตนอีกหรือไม่

นายสมบัติกล่าวด้วยว่า ทั่วโลกก็มีการตั้งชื่อพรรคแปลกๆ จำนวนมาก เช่น พรรคหมาสองหาง พรรคโจรสลัด พรรคเมีย พรรคเจได ซึ่งก็ถือว่าเป็นวิวัฒนาการทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตย แม้แต่ก่อนหน้านี้นายทะเบียนพรรคการเมืองของเราก็เคยรับรองชื่อพรรคถิ่นกาขาวมาแล้ว ดังนั้น จึงเห็นว่าคำวินิจฉัยของนายทะเบียนที่ไม่รับจดแจ้งจัดตั้งพรรคเกรียน จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ กกต.ที่มารับหนังสือ ได้ชี้แจงว่าทาง กกต.จะใช้เวลาในการพิจารณาคำอุทธรณ์ประมาณ 30 วัน โดยนายสมบัติได้แจ้งว่า หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ก็จะไปยื่นฟ้องศาลปกครอง หากศาลยืนตาม กกต.ก็ได้เตรียมชื่อสำรองไว้แล้ว โดยมีผู้เสนอชื่อเข้ามาแต่ยังไม่ถูกใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากพรรคเกรียน จะถูกนายทะเบียนห้ามแล้ว ยังมีพรรคเห็นแก่ตัวที่นายทะเบียนได้แจ้งว่าไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อดังกล่าว และให้ไปดำเนินการแก้ไขด้วย

 


ที่มา : มติชนออนไลน์