
กมธ.นิรโทษกรรม เตรียมพิจารณาความผิดมาตรา 112 อาจตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองความผิดรายบุคคล
วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. ได้นัดประชุม กมธ. ในวันที่ 30 พฤษภาคม โดยมีวาระนัดลงมติในประเด็นข้อศึกษา 2 เรื่องคือ การตั้งคณะกรรมการที่พิจารณาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และนิยามของคำว่า “แรงจูงใจทางการเมือง”
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก กมธ.ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าการลงมติจะไม่เกิดขึ้น แต่คงเป็นการหาแนวทางและข้อสรุปร่วมกัน ทั้งนี้ กมธ.ต้องการทำเรื่องดังกล่าวให้จบภายในเดือนมิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นการตั้งกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนั้น มีรายละเอียดที่อาจตั้งต้นจากการพิจารณาว่าการนิรโทษกรรมควรจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาคดี มาตรา 112 เป็นรายบุคคลหรือไม่ หาก กมธ.มองว่าไม่ตัดและนำไปรวมด้วย จะทำเป็นบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ. และให้กรรมการที่ตั้งขึ้นพิจารณา
ส่วนกรณีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 ที่ถูกจับตาเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกอัยการสูงสุดฟ้องหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ยอมรับว่าถูกจับตา และคาดคั้นให้พรรคเพื่อไทยต้องพูด ซึ่งตนบอกแล้วว่าหากพูดแล้วจะโดน เนื่องจากคนของเราหลายคนโดน หากพูดเท่ากับว่าเราต้องการช่วยคนของเรา พูดแล้วจะมีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่เสนอ และจะไม่ขัดขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นการตั้งกรรมการที่พิจารณาเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม ก่อนหน้านั้น กมธ.ได้พิจารณารายงานที่อนุกรรมการเสนอว่าด้วยองค์ประกอบของกรรมการ รวมถึงหน้าที่และอำนาจแล้ว แต่เห็นว่ามีประเด็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไข
เช่น องค์ประกอบของกรรมการ ที่มีข้อเสนอให้มีผู้พิพากษาร่วมด้วย ซึ่ง กมธ.ฝั่งตัวแทนผู้พิพากษามองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นผู้พิพากษามาจากองค์กรตุลาการ ทำให้อนุกรรมการนำกลับไปพิจารณาและเสนออีกครั้ง นอกจากนั้น ในกรอบอำนาจและหน้าที่ มีประเด็นที่ กมธ.ชุดใหญ่ทักท้วงในความกังวลว่าจะเป็นองค์กรที่มีอำนาจเหนือฝ่ายตุลาการและบริหาร
อย่างไรก็ตาม ในกรณีการลงมติเรื่องดังกล่าวมีแนวโน้มที่ กมธ.เสียงข้างมากจะเห็นชอบ เพราะสามารถทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองคดีที่มีหลักเกณฑ์ได้รับการนิรโทษกรรมที่เป็นคดีปัจจุบันได้