
‘แพทองธาร’ ลุยหารือทวิภาคีแอฟริกาใต้ เสนอเริ่มข้อตกลงค้าเสรี 5 ประเทศกลุ่มแอฟริกา แนะ ความร่วมมือ อาเซียน-ยูเรเซีย ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างภูมิภาค
วันที่ 18 มิถุนายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นำคณะทำงานประกอบด้วย นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย นายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมการประชุมกับประเทศสมาชิก BRICS+ และ ASEAN-Russia Round Table ที่เมืองวลาดิวอสต็อก ประเทศรัสเซีย
โดย ในช่วงเช้า น.ส.แพทองธารได้หารือทวิภาคีกับ นาย Bapela Kopeng Obed รองประธานคณะกรรมการด้านต่างประเทศ พรรค African National Congress ในประเด็นการสร้างความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ ระหว่างพรรคต่อพรรค พร้อมขอเสียงสนับสนุนในการเข้าร่วมสมาชิก BRICS+ ของประเทศไทย โดยทางพรรคหวังที่จะได้รับการประกาศชื่อเป็นสมาชิกโดยเร็ว
ขณะเดียวกันก็ได้หารือถึงแนวคิดที่จะริเริ่มข้อตกลงการค้าเสรี Thailand-SACU Free Trade Agreement (FTA) ซึ่งสมาชิก The Southern African Customs Union มี 5 ประเทศ ได้แก่ แอฟริกาใต้ บอตสวานา เลโซโท สวาซิแลนด์ และ นามิเบีย ทั้งนี้ทางฝ่ายแอฟริกาใต้มีท่าทีตอบรับในประเด็นทั้งสองไปในเชิงบวก
จากนั้นในช่วงบ่าย น.ส.แพทองธารได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “The Role of Responsible Political Forces of Russia and ASEAN Countries in Ensuring Financial and Economic Security of Sovereign States” โดยมีผู้แทนจากประเทศรัสเซีย และประเทศต่าง ๆ จาก ASEAN เข้าร่วมประชุม อาทิ กัมพูชา เวียดนาม ลาว เป็นต้น ซึ่ง น.ส.แพทองธารได้กล่าวขอบคุณความคิดเห็นที่หลากหลายจากผู้แทนแต่ละประเทศ และเชื่อว่าการประชุมครั้งสำคัญนี้ จะนำไปสู่การแบ่งปันประสบการณ์ และหาแนวทางร่วมกัน
โดยในส่วนของประเทศไทย น.ส.แพทองธารได้แบ่งปันประสบการณ์ของประเทศไทยเมื่อครั้งเกิดวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปยังประเทศอาเซียน และอีกหลายประเทศทั่วโลก แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในไทย แต่ทุกประเทศก็ได้รับผลกระทบร่วมกัน
ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการในการรับมือเรื่องดังกล่าว ในส่วนของ ASEAN ที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งกองทุนสำรองในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากการโจมตีค่าเงิน และนำร่องตลาดตราสารแห่งเอเชียเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเพิ่มการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้วยการจัดตั้งสำนักงานศึกษาและวิจัยเศรษฐกิจมหภาค เพื่อไม่ให้ทุกประเทศต้องเผชิญเหตุการณ์ที่เลวร้ายร่วมกันมาอีก
ในส่วนของการประชุมในครั้งนี้ น.ส.แพทองธารได้เสนอว่า BRICS สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ลักษณะหุ้นส่วนเพื่อการปรึกษาหารือกับ ACD โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและการเงิน ขณะเดียวกัน ดังเช่นที่ประเทศไทยสามารถร่วมมือกับ ASEAN ได้ รัสเซียและกลุ่มประเทศ EEC (Eurasia Economic Union) ก็สามารถร่วมมือกันได้
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจในภาพรวม สำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง ASEAN และ EEC ได้มีการนับหนึ่ง ลงนาม MOU ระหว่างสองกลุ่มประเทศไว้แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ซึ่ง น.ส.แพทองธารเห็นว่า หากทั้งสองกลุ่มประเทศสามารถขยายความร่วมมือต่อไปได้ ก็จะเป็นก้าวสำคัญของภูมิภาค อันจะนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจต่อไป