
เศรษฐายัน ไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีโอกาสพบ “บิ๊กป้อม” แต่ไม่เดินเข้าป่า รักความสบาย อยู่ในกรุงดีกว่า
วันที่ 25 มิถุนายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ได้มีการคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคหรือไม่ว่าไม่ได้พูดคุย แต่ได้พูดไปหลายเวทีแล้ว เรื่องที่มีข่าวความขัดแย้งกันในรัฐบาล ซึ่งก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ตนได้เดินคุยกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ สส.พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งก็ได้คุยเรื่องงานอย่างเดียว ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ตรงนี้ขอให้ดูกันต่อไปก็แล้วกัน
“เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ ร.อ.ธรรมนัสเข้ามาพบก็คุยกันเรื่องน้ำ ที่วันนี้เรามีงบฯกลางเข้าไป ซึ่งอย่างที่บอกเรื่องงบฯก็ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้แต่ละพื้นที่มีความละเอียดอ่อน มีปัญหาเฉพาะเขต ซึ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการกรมชลประทาน การกักเก็บน้ำ ปล่อยน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ หากปล่อยให้ไหลไปตามกรรมของมันอาจจะไม่ใช่การบริหารที่ดี
ผมก็เตือนสติทุกท่านไป ใส่เงินก็ส่วนหนึ่ง แต่การใส่ใจสำคัญมากกว่า อย่างที่บอกปีนี้ฝนน่าจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 10% แต่คงไม่ได้มากขนาดนั้น หากบริหารให้ดีเชื่อว่าผลกระทบจากน้ำท่วมคงไม่มี และถ้าบริหารดีจริง ๆ น้ำแล้งก็ไม่มีด้วย” นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่ากระแสข่าวความขัดแย้งที่ออกมาส่วนใหญ่ออกมาจากบ้านในป่า นายกฯจะถือโอกาสเดินเข้าบ้านป่าฯเพื่อที่จะสร้างความเข้าใจหรือไม่ นายเศรษฐาหัวเราะ พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ผมไม่เคยทราบ ผมไม่เดินเข้าป่า ผมอยู่ในกรุงครับ แต่ผมไม่ได้หนีอะไร แต่ถ้าคำว่าเดินเข้าบ้าน หรือเดินป่าผมไม่เดิน ผมรักความสบาย ผมอยู่ในกรุงดีกว่า”
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้หมายความว่าให้เดินเข้าป่าไปไหน แต่หมายถึงการไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านพักในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นายเศรษฐากล่าวว่า “ครับ ถ้ามีโอกาสก็คงจะพบ แต่ผมก็ไม่เคยรู้จักท่าน หากเจอกันในงานต่าง ๆ หรือท่านมาที่สภาเจอกันผมก็คงไปแสดงความเคารพท่าน และอย่างที่เคยบอกท่านเป็นอดีตรองนายกฯมานาน และเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก ไม่มีเหตุผลที่จะไปหลีกเลี่ยงหรือไม่ไปพบท่าน และพรรคของท่านก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมา”