“อภิสิทธิ์” ขอบคุณ “ชวน” หนุนนั่งหน.พรรคต่อ ยันคนปชป.ให้ความสำคัญยึดมั่นในระบบ

แฟ้มภาพ

“มาร์ค” ขอบคุณ “ชวน” หนุนนั่งหัวหน้าพรรคต่อ ยันประชาธืปัตย์ยุคใหม่ผสมผสานคนทุกรุ่นร่วมผลักดันแนวคิด ชี้หลังเลือกตั้งไม่ได้ดูที่หน้าตา แต่ดูว่ารัฐบาลหลุดพ้นจากปัญหาเก่าๆ หรือไม่

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ยังสนับสนุนนายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคว่า ต้องขอบพระคุณท่าน ความจริงท่านก็เป็นผู้ที่ยังทำงานหนักมากให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยหยุดในการพบปะประชาชน ลงพื้นที่และให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และท่านก็เป็นคนที่ยึดมั่นในระบบ เช่นเดียวกับตน และคนของพรรคประชาธิปัตย์ เราให้ความสำคัญกับตัวระบบ เพราะคิดว่าเป็นแนวทางที่จะแก้อะไรหลายอย่างได้อย่างยั่งยืน ตนรู้ว่าในสังคมยุคปัจจุบัน บางทีก็มองข้ามเรื่องนี้ไป บางทีมีความรู้สึกว่ายุ่งยากไปหรือไม่ ในการต้องยึดเรื่องของระบบ ระเบียบอะไรต่างๆ อยากจะทำอะไรก็เอาเลย อะไรอย่างนี้ แต่ตนมองว่าประวัติศาสตร์พิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ถ้าไม่มีระบบที่เข้มแข็ง มันไปยาก

“ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่เขาบอกเก่าที่สุด เราถึงบอกว่าเราก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่การเปลี่ยนแปลงของเราก็คือ เอาความคิดใหม่ๆ เอาคนใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานการทำงานกับคนที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราพูดถึงประชาธิปัตย์ยุคใหม่ แต่เราก็ยังเห็นบทบาทของบุคคลอย่างท่านชวน นี่คือการผสมผสานของพรรคประชาธิปัตย์ คนทุกรุ่นมาช่วยกันทำงาน แต่ไม่ใช่ทำงานแล้วหยุดอยู่กับที่ ทำงานแล้วก็ต้องมีการผลักดันแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องของการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างตอนนี้ที่เน้นเรื่องของยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา การกระจายอำนาจ หรืออะไร ก็ต้องอาศัยทั้งคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่ามาผลักดัน” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า คนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีคนหน้าใหม่เข้ามาจะมีพรรคใหม่เข้ามา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การมีหน้าคนใหม่ เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เห็นง่าย แต่สุดท้ายตนว่าถ้าเราบอกว่าเราจะปฏิรูป คงไม่ได้มาดูที่หน้า แต่จะดูว่ารัฐบาลชุดต่อไป หลุดพ้นจากปัญหาเก่าๆ หรือไม่ ถ้าหน้าใหม่แต่มาทำเหมือนเก่า ทำการเมืองแบบเก่าๆ เรื่องผลประโยชน์ เรื่องทุจริต เรื่องพรรค เรื่องพวก แล้วหน้าใหม่จะมีประโยชน์อะไร แต่ถ้าเป็นคนเก่า แล้วสามารถทำให้หลุดพ้นจากเรื่องเก่าๆ ได้ ตนว่านั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า ส่วนจะเป็นแบบไหนก็อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า

 

ที่มา : มติชนออนไลน์