ภูมิธรรม ย้ำไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน เชื่อ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ช่วยลดต้นทุนผลิต

ภูมิธรรม ย้ำไม่ได้ยกเลิกโครงการไร่ละ 1,000 บาท ชี้หากเดือดร้อนหนักพร้อมช่วยแถมเพิ่มวงเงิน ลั่นคนละส่วนปุ๋ยคนละครึ่ง ซัดที่ผ่านมาช้าเพราะ สส.ไม่ช่วยแจงประชาชนให้เข้าใจ

วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนเรียกร้องขอให้นำโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ คืนมาและให้เอาโครงการปุ๋ยคนละครึ่งกลับคืนไป ว่าหากจะพูดคุยเรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง ก็ต้องแยกเป็นสองประเด็น เรื่องชดเชย 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ เป็นเรื่องที่ยังดำรงอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาทดแทนกัน

เพราะนโยบายนี้เป็นมาตรการที่รัฐบาล ใช้ในการแทรกแซง หรือช่วยเหลือตอนที่ราคาข้าวตกต่ำ และเกษตรกรขาดทุน หากตราบใดที่เกษตรกรขาดทุน มาตรการนี้ก็จะกลับมา แต่ถ้าเสียหายมากกว่านี้ การเพิ่มมาตรการนี้ก็อาจจะเพิ่มวงเงินขึ้นก็ได้ ยืนยันว่ายังไม่ได้ยกเลิก

ส่วนโครงการปุ๋ยคนละครึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตนกำกับดูแลในฐานะรองนายกฯ ก็เป็นโครงการที่รัฐบาลคิดมานานแล้ว ว่าจะทำอย่างไรในการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น เพราะข้าวไทยเป็นข้าวที่มีมีมาตรฐาน และหลายชาตินิยม แต่ว่าราคาข้าวไทยยังคงสูง เพราะต้นทุนเราสูงกว่าอีกทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่สามารถให้ผลผลิตจำนวนมากได้ เหมือนประเทศประเทศเวียดนาม หรืออีกหลายประเทศที่ได้ดำเนินการ

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตของเวียดนามถูกกว่าเรา จึงมาขายตีตลาดเรา ซึ่งรัฐบาลก็พยามทำให้ต้นทุนการผลิตของไทยไม่ลดลง ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงราคาที่ต่างชาติต้องการด้วย

ซึ่งโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นวิธีการลดต้นทุนการผลิต เพราะก่อนหน้านี้มีชาวนาหลายคนนำเงินไปซื้อปุ๋ย แต่หากไม่มีเงินก็มีการติดค้างค่าชำระไว้กับร้านค้า ก็เปรียบเสมือนการกู้นอกระบบ ซึ่งต้องมีการคิดดอกเบี้ย พอได้ผลผลิตก็จะถูกนำไปหักกับค่าปุ๋ย จึงทำให้เกษตรกรมีความยากลำบาก จึงได้ดำเนินการโครงการนี้ เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ให้สามารถซื้อปุ๋ยในราคาถูกได้

ส่วนกรณีเกษตรกรที่ไม่มีเงิน รัฐบาลก็ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ช่วยพิจารณาเช่นการออกเงินกู้ให้ ในราคาดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีเสียงทักท้วง แต่ก็มีเสียงสนับสนุนพอสมควร อย่างไรก็ตามทางกระทรวงเกษตรฯ ก็เริ่มที่จะให้ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังมีอีกข้อท้วงติงหนึ่งที่บอกว่าดำเนินการไม่ทันแล้ว แต่ความตั้งใจของรัฐบาลมีความตั้งใจว่าจะดำเนินการโครงการนี้ก่อนเริ่มฤดูกาลปลูกแล้ว

แต่เนื่องจากยังติดขัดเรื่องความเข้าใจของประชาชน และ สส.อีกหลายคน ที่ไม่สะดวกใจที่จะให้ทำ ซึ่ง สส.ก็ไม่ได้ช่วยกันชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่คิดว่าก็น่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ เพราะโครงการนี้ดำเนินการตั้งแต่

ตอนนี้จนถึงพฤษภาคมปี’69 ก็มีหลายคนที่เสนอให้นำไปใช้กับพืชผักผลไม้อื่น ๆ ด้วยซ้ำไปจึงอยากฝากไปยังเกษตรกรว่าไม่ต้องกังวลใจหากมีปัญหาหรือวิกฤตรัฐบาลก็พร้อมให้ความช่วยเหลือ