
บ้านใหญ่บางบอน “กลุ่มบ้านริมคลอง” ถึงจุดสิ้นสุดกับพรรคเพื่อไทย หลังอยู่ยาวมาเกือบ 20 ปี
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และครอบครัวอยู่บำรุง เตรียมย้ายเข้าบ้านป่ารอยต่อ ซบพรรคพลังประชารัฐ
ภายหลังการลาออกจากพรรคเพื่อไทยทุกตำแหน่งของ “วัน อยู่บำรุง” ต้นเหตุที่ไปปรากฏตัวอยู่ในบ้านของคนที่เป็นคู่แข่งกับพรรคเพื่อไทย-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี
บ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้า ตัดขาดไม่มีง้อ
วันนี้ 20 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.เฉลิมจึงยืนยันความจริงว่า จะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์
“ผมรู้จักกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมานานกว่า 30 ปี หากพรรคเพื่อไทยมีมติขับผมออกเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐทันที”
“ไม่ได้ร้องขอตำแหน่งใด ๆ ซึ่งบุตรชายผมคือนายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เตรียมจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐในสัปดาห์หน้า โดยจะพานายอาชวิน อยู่บำรุง หรือ กาโม่ หลานชายของผมไปอยู่ด้วยเช่นกัน”
บนเส้นทางการเมืองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แห่ง “บ้านริมคลอง” เขาไม่ได้มีรากเหง้าจาก “พรรคไทยรักไทย” ตั้งแต่ Day 1 แต่มาจากการที่พรรคความหวังใหม่ อันมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นหัวหน้าพรรค ได้ควบรวมกับพรรคไทยรักไทย
แล้วต่อมา ร.ต.อ.เฉลิมเลือกเดินออกจากพรรคไทยรักไทย ก่อนไปศึกษาปริญญาเอก ด้านกฎหมายที่ ม.รามคำแหง พร้อมกับลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่จอดป้ายได้แค่อันดับ 4
กระทั่ง “พรรคไทยรักไทย” และ “ทักษิณ ชินวัตร” กระเด็นออกจากอำนาจ จากการรัฐประหาร 2549 การเมืองเว้นวรรคไปร่วมปี ก่อนเปิดให้มีการเลือกตั้งอีกครั้ง เป็นจังหวะให้ ร.ต.อ.เฉลิมกลับเข้าสู่การเมือง
6 พฤศจิกายน 2551 พรรคพลังประชาชน พรรคการเมืองร่างที่ 2 ของ “ทักษิณ” ซึ่งมี “สมัคร สุนทรเวช” เป็นหัวหน้าพรรค ได้เปิดตัว ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้สมัคร สส.กทม. กลุ่ม 6 ของพรรค
“ร.ต.อ.เฉลิม” ประกาศบนเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง ว่า ถ้าพรรคพลังประชาชน ได้เป็นรัฐบาล เขาจะเป็น มท.1 และพา “ทักษิณ” กลับบ้าน
หลังจากพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 พร้อมกับจัดตั้งรัฐบาลในเวลาต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้นั่งเก้าอี้ มท.1
2 กุมภาพันธ์ 2551 “ร.ต.อ.เฉลิม” เดินเข้าสู่กระทรวงมหาดไทยในฐานะ มท.1 เป็นครั้งแรก พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมปราศรัยไว้ก่อนว่า เอานโยบายไทยรักไทย โดย พ.ต.ท. ทักษิณ ที่เคยบริหารสำเร็จมาใช้ และเราเอามาต่อยอด ก็มีบางคนมาบอกว่า พลังประชาชนก็คือไทยรักไทยเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาไปยุบพรรคเขาทำไม ถ้ายุบอีกทีจะตั้งชื่อพรรคทักษิณให้ชัดไปเลย เขาทำแล้วได้คะแนนนิยม แล้วจะมาบอกว่า เป็นไทยรักไทยจะพูดถึงไม่ได้ ทำไมจะพูดไม่ได้ มันผิดกฎหมายมาตราไหน ผมดูโทรทัศน์พอเห็นข่าวยุบพรรค ต้องปิดทุกทีเพราะเบื่อ”
แม้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน ต้องพ้นจากเก้าอี้ มท.1 ในงานเลี้ยงอำลาตำแหน่ง ณ ร้านอาหาร โต้ง-หนุ่ม-ชาย ของเจ้าตัว ย่านบางบอน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 ลั่นวาจาว่า อีก 5 ปีจะกลับมาเป็น รมว.มหาดไทยอีกครั้ง
“ผมไม่น้อยใจ ไม่โกรธ และไม่คิดว่ามีแก๊งนู้น แก๊งนี้มากดดัน ผมเต็มใจที่จะออกและเต็มใจที่จะนั่งปฏิบัติหน้าที่ สส.เพียงอย่างเดียว เดิมทีผมว่าจะเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิประจำกระทรวง แต่เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ แล้วผมก็ไม่มีโอกาสเข้าไปกราบลาสิ่งศักดิ์สิทธิ และกราบลาข้าราชการ เพราะไม่แน่ว่าอีก 5 ปี ผมจะกลับมาใหม่”
แม้ว่าเขาพ้นเก้าอี้ในยุค “สมัคร” จากพิษของแก๊งออฟโฟร์ที่เรืองอำนาจในพรรคพลังประชาชนเวลานั้น แต่เมื่อ นายกฯ ต้องพ้นจากเก้าอี้ด้วยคำพิพากษา “ชิมไปบ่นไป”
สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมานำพรรคแทน ร.ต.อ.เฉลิม จึงคัมแบ็กกลับมานั่งเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข สวมบทเป็น “หมอเหลิม”
แต่พรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค ซ้ำร้ายมีการพลิกขั้วรัฐบาล พรรคเพื่อไทย อันเป็นพรรคที่ 3 ของเครือข่ายทักษิณ ต้องเป็นฝ่ายค้าน ทว่า..ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ผลงานโดดเด่นคือ การนำทัพยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีไซฟอนเงินบริจาค แม้ว่าสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จะรอดพ้นจากการยุบพรรคก็ตาม
ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 มี “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม สวมบท “ใจถึง..พึ่งได้” นั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับฝ่ายความมั่นคง ต่อมาถูกย้ายไปเป็น รมว.แรงงาน
ในช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกรุกไล่จากกลุ่ม กปปส. ร.ต.อ.เฉลิม ยังสวมอีกบทบาทหนึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ตามจับ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ตามหมายจับที่อนุมัติโดยศาลอาญาในข้อหา “กบฏ”
แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยต้องถูกรัฐประหาร เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557
ด้วยความที่คนเราหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น ร.ต.อ.เฉลิม ในวัย 77 ปี โรยราจากเดิมมาก แต่ทุกครั้งที่เขาเข้ายังพรรคเพื่อไทย บรรดา สส. รัฐมนตรี มักแวะเวียนไปทักทายที่ห้องเสมอ
แต่วันนี้ “อยู่บำรุง” เตรียมปิดฉาก จากเพื่อไทย เข้าป่ารอยต่อ