ผ่าดุลอำนาจ เครือข่ายภูมิใจไทย คุมเกม สส.-สว. จัดทัพมหาดไทย

blue_guy
คอลัมน์ : Politics policy people forum

สถานะตอนนี้ของพรรคภูมิใจไทย ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย แม้มีอยู่ 71 เสียงในสภา

เป็นพรรคอันดับ 3 ในสมการการเมือง เป็นรองพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย

แต่เป็นพรรคอันดับ 2 ในซีกพรรคร่วมรัฐบาล

ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ก่อนเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ที่กางเป้าไว้ที่ 70 ที่นั่ง

เพราะพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ต้องการเป็นพรรคอันดับ 1 หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยประกาศทุกวงการเมืองว่า ไม่กระสันเป็นนายกฯ ขอเป็นพรรคอันดับ 2 หรือ 3 ที่มีเสียงอย่างน้อย 70 ที่นั่ง เป็นพรรคที่แกนนำรัฐบาลปฏิเสธไม่ได้

และมีเสียงเพียงพอที่จะมีอำนาจต่อรองกระทรวงสำคัญมาไว้ในมือ

ADVERTISMENT

ดังนั้น หลังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ภูมิใจไทย ของ “อนุทิน” จึงครอบครองกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึงเก้าอี้ช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

แบ่งเป็นเก้าอี้ 1 รองนายกฯ 4 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ โดยมี 71 เสียงในสภา เป็นแบ็กอัพสำคัญ ยังไม่นับพรรคเล็ก ที่พรรคภูมิใจไทยให้การดูแลเก็บไว้เป็น สส.กองหนุน

ADVERTISMENT

เป็นพลังขับเคลื่อนวาระการเมือง-เรือธงของพรรค ยกตัวอย่าง นโยบายกัญชา แม้ว่าระยะหลังนี้ มีประเด็นร้อนเรื่องการนำกัญชากลับเข้าไปสู่บัญชียาเสพติด ภายหลังการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด วันที่ 8 พฤษภาคม 2567

นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

2 เดือนหลังจากนั้น 10 กรกฎาคม พรรคภูมิใจไทย ขนทีม สส.ประกาศจุดยืน ค้านดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด

8 วันถัดมา “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยื่นคำขาดเมื่อ 18 กรกฎาคมว่า “ผมได้กราบเรียนนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่เป็นเรื่องอยู่ที่ ป.ป.ส. ซึ่งมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีหลายท่านอยู่ในคณะ”

“ผมก็ต้องแจ้งให้นายกฯทราบก่อนว่า ผมไม่สามารถให้ความเห็นชอบให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดได้ เพราะยังมีอะไรที่ไม่สมบูรณ์อยู่ กรรมการที่เคยเอากัญชาออกจากยาเสพติด และกรรมการที่ตั้งเรื่องเพื่อที่จะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก็เป็นชุดเดียวกัน และกรรมการ ป.ป.ส.ชุดนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดเดียวกันอยู่ ดังนั้นควรจะมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจเรื่องสำคัญเช่นนี้ จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ควรเริ่ม”

71 เสียงในสภาของ “ภูมิใจไทย” มีความหมายใหญ่หลวงทางการเมือง ในจังหวะที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ต้องการเสียงของพรรคภูมิใจไทย ในการผ่านกฎหมายสำคัญ

เช่น กฎหมายงบประมาณเพิ่มเติม 2567 เพื่อนำไปใช้กับโครงการแจกเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเลต กฎหมายงบประมาณ 2568 และกฎหมายอีกหลายฉบับ

140 สว.สีน้ำเงินคุมเกม

และเมื่อรวมกับ สว.สายสีน้ำเงิน ซึ่งว่ากันว่าเป็น “เครือข่าย” ของพรรคภูมิใจไทย กว่า 137-150 เสียง

เมื่อรวมกับ 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย จึงมีกว่า 210-220 เสียงในรัฐสภา โดยที่ สว.สายสีส้ม ครองเก้าอี้ราว 20 ที่นั่ง เช่นเดียวกับ สว.อิสระ 30 ที่นั่ง

แน่นอนว่า เก้าอี้ประธานวุฒิสภา-รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 อาจเป็นของ สว.สีน้ำเงิน แทบจะโดยปริยาย เหลือเพียงรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ที่ สว.สีน้ำเงินปล่อยมือ แต่ไม่ได้ปล่อยให้ สว.กลุ่มอื่นได้เก้าอี้แบบไม่มีเงื่อนไข

ที่สำคัญ อำนาจของ สว. นอกจากกลั่นกรองกฎหมาย ยังต้องให้ความเห็นชอบการแต่งตั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ ประกอบด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

และเห็นชอบ “องค์กรอื่นตามกฎหมาย” ที่ต้องใช้อำนาจ สว.เห็นชอบ คือ อัยการสูงสุด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ประธานศาลปกครองสูงสุด ตุลาการศาลปกครองสูงสุด เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

ดังนั้น สว.ที่กุมเสียงได้เกินครึ่ง ย่อมกำหนดทิศทาง-ตัวบุคคล ขององค์กรอิสระ

และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ และยังสามารถยื่นถอดถอน สส. รัฐมนตรี จนถึงนายกรัฐมนตรี ได้ด้วย

เปิดแคนดิเดตตลาดมหาดไทย

และอีกไม่นานนี้ กระทรวงมหาดไทยที่มี “อนุทิน” เป็นเจ้ากระทรวง จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ เก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” หรือ ปลัดเก่ง เกษียณอายุราชการ ชื่อคนที่จะมาเป็นปลัดกระทรวงคนต่อไป นาทีนี้ยังฝุ่นตลบ แต่จำกัดวงเพียงไม่กี่ชื่อ ก่อนจะโยนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ

ชื่อที่แคนดิเดต ได้แก่ “ขจร ศรีชวโนทัย” อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อนรักสิงห์ดำ รุ่นเดียวกับ ปลัดเก่ง และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.61 ของ “อนุทิน”

ชัยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสายตรง

แต่อีกชื่อที่มาแรง คือ อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง “อธิบดีป๊อบ” ที่ช่วงหลัง เปรียบเสมือนเงาของ “อนุทิน” ตามติดไปทุกที่

แม้กระทั่งที่สถานที่ชุมนุม “พญาการเมือง” โรงแรมแรนโช ชาญวีร์ เมื่อช่วง 19-21 กรกฎาคม ซึ่งมีทั้ง ทักษิณ ชินวัตร สุวัจน์ ลิปตพัลลภ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีของเพื่อไทย ไปร่วมก๊วนกอล์ฟ ก็มีภาพ “อรรษิษฐ์” ตามไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ว่าฯ อีก 26 จังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวงอีก 3 คน เกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ส่วนรองผู้ว่าฯ เกษียณอีก 43 จังหวัด

เปิดโอกาสให้ “อนุทิน” ปรับทัพข้าราชการนักปกครองลอตใหญ่

ภูมิใจไทยนาทีนี้ เสียงแข็งเสียงเข้ม ดังกังวาน ไปทั้งสภาบน สภาล่าง และอำนาจฝ่ายปกครอง ภาพการเมืองที่แรนโช ชาญวีร์ คือคำตอบของเรื่องนี้