
มงคล-นันทนา-หมอเปรมศักดิ์ ชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา บิ๊กเกรียง ชี้มงคลเหมาะด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิ
วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมวุฒิสภา (สว.) มีการประชุมนัดแรก โดยมี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ซึ่งเป็น สว.ที่มีอายุมากที่สุด 78 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราว ทั้งนี้ มีวาระสำคัญที่ต้องให้สมาชิกวุฒิสภากล่าวปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมีการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2
บิ๊กเกรียงชี้ มงคลเหมาะสม
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.สายสีน้ำเงิน เปิดเผยถึงความคาดหวังหลังจากได้รับเลือกให้ทำหน้าที่สมาวุฒิสภา ว่าเมื่อได้รับเลือกแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตามที่สมาชิกทั้งหลายได้ให้โอกาสตนในการรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นจากทั้งสมาชิกวุฒิสภา รวมถึงประชาชนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็เป็นความสวยงามของวิถีชีวิตในระบอบประชาธิปไตย
หากได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ก็ต้องรอก่อนว่าบทบาทของใครจะได้รับมอบหมายเรื่องอะไร ซึ่งจริง ๆ หน้าที่และบทบาทก็กำหนดอยู่ในระเบียบข้อบังคับอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่ได้รับมอบหมายความไว้วางใจก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง ทั้งนี้ในส่วนความพร้อม ตนเคยบอกไปแล้วว่า ทุกคนที่เข้ามาเป็น สว. 200 คน มีความสามารถที่มาจากกลุ่มอาชีพ เพราะฉะนั้นความชำนาญประสบการณ์ทุกคนมีและทุกคนพร้อมที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ส่วนที่นายมงคล สุระสัจจะ สว.ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า นายมงคลมีความเหมาะสม เพราะพร้อมด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ผ่านชีวิตมามากมายตั้งแต่ปฐมวัยและในช่วงที่ทำงานใหม่ ๆ
เมื่อถามถึงกระแส ที่ว่า สว.สายสีน้ำเงินอาจคุมเบ็ดเสร็จในวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า จริง ๆ ในที่ประชุมมีความหลากหลายจะมองว่า เป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ไม่ได้เพราะเราทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาก็ต้องเดินไปด้วยกันถึงแม้จะมีความเห็นต่างกัน ยกตัวตัวอย่าง หากเป็นครอบครัวก็ต้องมีความเห็นต่าง ไม่ว่าภรรยาหรือลูกจะมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือทำให้ครอบครัวมีความสุข ส่วนเรื่องการที่มีคนการเมืองหนุนหลังนั้นทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าบุคคลนั้นเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคนไหนเป็นเรื่องปกติในสังคม
นันทนา ขอแสดงวิสัยทัศน์
ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งตัวแทนชิงตำแหน่งประธานวุฒิ สภาและรองประธานวุฒิสภา ว่าตนยืนยันแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบ ในการผลักดันนำพา สว. ในเวลา 5 ปีหลังจากนี้ ส่วนผลการลงคะแนนคงเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกทุกคน และหวังว่าวิสัยทัศน์ของเราจะได้นำไปถูกใช้จริง รวมถึงหวังได้เป็นประมุขวุฒิสภาทั้ง 3 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งประธานสภา ตนลงชิงเอง ส่วนรองประธานสภาคนที่ 1 จะส่งนายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว. และรองประธานสภาคนที่ 2 จะส่งนางอังคณา นีละไพจิตร สว.
น.ส.นันทนา กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยกับกลุ่มอื่น โดยเฉพาะ สว.กลุ่มใหญ่ เนื่องจากไม่ทราบว่าต้องไปคุยกับใคร และผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็ไม่ได้แสดงตัวออกมา วันนี้ก็จะได้เห็นว่ากลุ่มที่สื่อมวลชนรายงานว่าเป็นบ้านใหญ่จะมีใครแสดงตัวออกมา มีอยู่จริงหรือไม่ ให้ดูจากผลการลงคะแนน
ทั้งนี้ ดูจากที่สื่อมวลชนรายงานหากเป็นกลุ่มบ้านใหญ่ที่เป็นปึกแผ่น มีสมาชิกเกินครึ่งหนึ่งเราคงสู้ไม่ได้ แต่อยากให้ประชาชนให้ฟังวิสัยทัศน์จาก สว.พันธุ์ใหม่ ที่เราอาสาเป็นประมุข แม้เราจะไม่ชนะเสียงในสภา แต่เชื่อว่าจะชนะใจประชาชน
เมื่อถามว่าผลการเลือกในครั้งนี้สะท้อนอะไรทางการเมืองบ้าง น.ส.นันทนา กล่าวว่า ถ้าคะแนนออกมาเป็นปึกแผ่น ผู้ได้รับตำแหน่งมีคะแนนเกินครึ่งหนึ่ง และเป็นไปตามที่สื่อมวลชนรายงาน ก็จะเป็นในลักษณะการกำหนดทิศทางวุฒิสภาตามกลุ่มก้อนที่ได้กันมา
และในอนาคตวุฒิสภาอาจมีการลงมติไปในทิศทางที่กลุ่มก้อนใหญ่กำหนด ในฐานะที่ตนเข้ามาเป็นวุฒิสมาชิก ไม่อยากเห็นแบบนั้น และไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนที่ยึดโยงกับประชาชน พร้อมยืนยันว่า สว.ชุดนี้แตกต่างจาก สว.ชุดเดิม เช่นการลงมติจะไม่ถึงขนาด 200 : 0 แต่จะมีเด็กกลุ่มที่เห็นต่างกันออกไป และยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น
หมอเปรม เสนอตัว
นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภาว่า ตนได้ไตร่ตรองด้วยความรอบคอบแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ สว.จำนวน 200 คนจะได้สมัครหรือผู้ที่มีถูกเสนอชื่อสามคน ที่มีแนวทางแตกต่างกัน ตนก็เป็นทางสายกลางและไม่สังกัดกลุ่มใด หรือถือขั้วข้างใด ไม่มีเงาของพรรคการเมืองมาทาบทับอยู่ด้านหลัง
ฉะนั้น ตนจึงคิดว่าการเสนอตัวในระบบประชาธิปไตยนั้น เป็นเรื่องที่ดีและเป็นการลบคำครหาว่าวุฒิสภาชุดนี้ เป็นสภาตามใบสั่ง ดังนั้น เมื่อมีผู้นำมาแนวทางและเพื่อนสมาชิกได้รับความสนใจว่าจะเสนอตัวเป็นประธานวุฒิสภา
ต่อมา ในการประชุมวุฒิสภา ในวาระเลือกประธาน โดยประธานวุฒิสภาตามข้อบังคับการประชุมข้อ 6 โดยผู้ที่เสนอชื่อต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 10 คน ทั้งนี้ ในการเลือกประธานวุฒิสภา มีผู้เสนอชื่อ 3 คน คือ นายมงคล สุระสัจจะ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ทั้งนี้ คนที่เสนอชื่อนายมงคล คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ จากนั้นให้ผู้เสนอตัวนั่งประธานวุฒิสภา ต้องแสดงวิสัยทัศน์