มงคล ผงาดนั่งประธานวุฒิสภา 159 คะแนน ชนะ นันทนา-หมอเปรมศักดิ์

มงคล

มงคลนั่งเก้าอี้ประธานวุฒิสภาตามโผ ได้ 159 คะแนน ชนะนันทนา-หมอเปรมศักดิ์ พล.อ.เกรียงไกร อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อน วปอ.61 ของ “อนุทิน” นั่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 

วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ในการประชุมวุฒิสภา (สว.) มีการประชุมนัดแรก โดยมี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ซึ่งเป็น สว.ที่มีอายุมากที่สุด 78 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราว ทั้งนี้ มีวาระสำคัญที่ต้องให้สมาชิกวุฒิสภากล่าวปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมีการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนับคะแนนผู้ที่ลงชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภาคือ นายมงคล สุระสัจจะ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส และ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ผลการลงคะแนนและขานคะแนนซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ผลปรากฏว่านายมงคลมีคะแนนนำแบบม้วนเดียวจบ

โดยผลการลงคะแนนปรากฏว่านายมงคลได้ 159 คะแนน นพ.เปรมศักดิ์ 13 คะแนน น.ส.นันทนาได้ 19 คะแนน งดออกเสียง 4 บัตรเสีย 5

สำหรับประวัตินายมงคล มาถึงจุดสูงสุดที่ไม่เคยถึง เพราะย้อนไปในช่วงปลายชีวิตข้าราชการปกครอง ในยุคที่มี ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย “มงคล” ถูกดึงจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เข้ามาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และขยับไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และสำคัญกว่านั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้เขาเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย

ADVERTISMENT

เกือบจะได้เป็น “สิงห์ทอง” (รัฐศาสตร์ รามคำแหง) คนแรกที่ได้เป็นปลัดกระทรวง แต่ทันใดนั้นก็ถูกแรงต้านจากทุกสารทิศ โดยเฉพาะกลุ่มสิงห์ดำ (รัฐศาสตร์ จุฬาฯ) ที่พุ่งเป้าเรื่อง “ความอาวุโส” ลำดับ 54 ท้ายสุดในบัญชี ซี10 แต่กลับจะนั่งเก้าอี้ปลัดกระทรวง สุดท้ายเขาไม่อาจทนแรงต้าน ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งปลัดมหาดไทย

ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมการปกครองคนก่อนหน้า คือ “วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พานิช” ได้ยื่นร้องต่อ ก.พ.ค.มหาดไทย เรื่องการโยกย้ายไม่เป็นธรรมที่เด้งเขาไปเป็นผู้ตรวจ สุดท้าย ก.พ.ค.มหาดไทย สั่งคืนตำแหน่งให้ “วงศ์ศักดิ์” ส่วน “มงคล” ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจ ในตำแหน่งหัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย

ADVERTISMENT

มงคลกล่าวในตอนนั้นว่า การที่มติ ครม.เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2554 ที่ให้นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย กลับไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และย้ายตนมาเป็นผู้ตรวจฯ แทนนั้น

“ทราบดีว่าผลการประชุม ครม.จะออกมาเป็นเช่นนี้ และทำใจไว้ล่วงหน้า พร้อมทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่การที่ตนจะออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองก็ต้องออกไปอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ออกไปจากโทษที่ตนไม่ได้ก่อ ซึ่งการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เลือกให้ความเป็นธรรมกับนายวงศ์ศักดิ์ แต่เอาความไม่เป็นธรรมมาให้กับตน อย่างนี้ เรียกว่าให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการได้อย่างไร เพราะถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมที่ไม่บริสุทธิ์”

อย่างไรก็ตาม หลังเกษียณอายุราชการ เขากลับไปทำไร่ผลไม้ที่บุรีรัมย์ แต่ไม่เคยห่าง “บ้านชิดชอบ” ในยุคที่ ทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น มท.3 ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ “มงคล” ถูกตั้งให้มาเป็น “ประธานคณะทำงาน” ปรากฏตัวในวงประชุมทั้งที่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ที่มี “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เป็น รมว.คมนาคม

สำหรับเส้นทางชีวิตราชการของ “มงคล” รับราชการเป็นปลัดอำเภอ วันที่ 8 มกราคม 2522 จากนั้น 10 ปีต่อมาได้เป็นปลัดอำเภอธัญบุรี ซึ่งทำให้รู้จักกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ชื่อ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปัจจุบันเป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และตามไปรับราชการที่ จ.นครพนม เมื่อ “เสริมศักดิ์” ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด

ต่อมามงคลกลับมาเป็นนายอำเภอ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวง แล้วขยับไปเป็นรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ และอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และอธิบดีกรมการปกครอง จบที่ตำแหน่งหัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงมหาดไทย

เกรียงไกล นั่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1

ด้าน “พล.อ.เกรียงไกร” อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ.เพื่อน วปอ.61 ของ “อนุทิน” นั่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 คะแนนทิ้งขาด 150 แต้ม แต่ขานคะแนนพลาด 1 เสียง ต้องนับใหม่อีกรอบ

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ได้ 150 คะแนน นายนพดล อินนา ได้ 27 คะแนน นายปฏิมา จิระแพทย์ ได้ 5 คะแนนและ นายแล ดิลกวิทยรัตน์ ได้ 16 คะแนน งดออกเสียง 0 บัตรเสีย 2

อย่างไรก็ตาม ในการขานคะแนนช่วงท้าย ปรากฏว่า มีการขานคะแนนเพิ่มขึ้นมาเป็นบัตรงดออกเสียง 1 ทำให้ผลรวมกลายเป็นบัตรนับคะแนนเพิ่มขึ้น 1 ใบ โดยที่ประชุมต่างมีความเห็นให้นับคะแนนและขานใหม่ และมี สว.บางราย ให้กรรมการนับใหม่เป็นการภายใน เนื่องจากการหายไป 1 คะแนน ไม่กระทบกับคะแนนของผู้ชนะ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ยุทธนา ในฐานะประธานที่ประชุมได้ขอให้มีการนับคะแนนใหม่