
กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ระบุ ‘ป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต’ แสดงอำนาจเหิมเกริม จี้รัฐไทย จัดการกลุ่มธุรกิจจีนเทาดำ ทำผิดกฎหมายกลางกรุง
วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีมีการขึ้นป้ายโฆษณาเป็นภาษาจีนกลางแยกห้วยขวางให้บริการซื้อขายพาสปอร์ตย้ายประเทศ แม้จะมีการปลดป้ายออกไปแล้ว แต่มีการวิจารณ์และเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าทำได้หรือไม่ โดยนายกัณวีร์ กล่าวว่า เรื่องนี้สะท้อนถึงความเหิมเกริมของธุรกิจจีนเทาดำที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกว่าทำไมประเทศไทยจึงตกอยู่ในสภาพนี้
“พูดถึงธุรกิจสีเทาสีดำที่มีผลกระทบกับไทยก็คงต้องเป็นธุรกิจที่มาจากประเทศจีนนั่นเอง แต่ขอให้ทุกคนแยกให้ออกนะครับ ว่าผมพูดถึงคนที่ทำธุรกิจ ที่เป็นคนไม่ดี และมาจากประเทศจีน มิใช่ไปว่าประเทศจีนเหมารวมทั้งหมดว่าไม่ดี เราต้องแยกกันให้ออกเสียก่อน”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ไทยต้องรู้ตัวได้แล้วว่าธุรกิจเทาดำ เข้ามามีอิทธิพลตั้งแต่ธุรกิจการล่อลวงคนมาทำงานในบ่อน/กาสิโนออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ใน 3 ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าให้เห็นโดยเฉพาะในประเทศเมียนมา ซึ่งเราคงไม่ก้าวล่วงไปประเทศเพื่อนบ้านว่าเค้าตั้งถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร หากแต่การมีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อยู่และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อคนไทยและประเทศไทย เราคงยอมมิได้
“ทั้งการล่อลวงให้ไปทำงานที่ไม่ตรงปก และขบวนการนำพาคนเข้ามาทั้งผ่านไทยและออกจากไทย ไม่ว่าเหยื่อจะยินยอมให้นำพาหรือไม่ สุดท้ายจบที่ขบวนการค้ามนุษย์และมีเหยื่อที่ตกหลุมพรางวงจรอุบาทว์นี้เป็นหลักหมื่น ที่มาจากเกือบร้อยสัญชาติ หลายคนยอมจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อหนีออกมาจากความอำมหิตของขบวนการนำพา หลายคนอยากจ่ายแต่ไม่มีเงิน หลายคนสามารถกลับไปพบญาติได้ แต่หลายคนก็หายสาบสูญเช่นกัน”
นายกัณวีร์ ระบุว่า เงินเทาดำมหาศาลเหล่านี้ได้ถูกนำพาเข้ามาในไทยแล้วฟอกด้วยธุรกิจถูกกฎหมายอย่างน่าฉงน ว่าทำไมเงินมากมายขนาดนั้นถึงไม่มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างถี่ถ้วน ว่าเงินนั้นมาจากไหน เมื่อปี 2565 ก็มีการทลายและจับกุมกลุ่ม 5 มังกรจีนเทาที่เป็นข่าวใหญ่โต แต่ทำไมมันไม่จบ
“ดูเหมือนเส้นทางการเงินระหว่างธุรกิจจีนเทาดำนี้จะบรรจบกันทั้งจากนอกประเทศและในประเทศไทย และยิ่งนานวันมันยิ่งขยายตัวและดูจะไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองใครทั้งนั้น ตกใจที่มีข่าวเห็นป้ายประกาศเป็นภาษาจีนใหญ่โตมโหฬารตรงรัชดากลางกรุงที่ถือเป็นใจกลางของคนจีน ว่าสามารถซื้อพาสปอร์ตประเทศต่าง ๆ เพื่อมาขอสัญชาติไทยได้ ราคาก็แล้วแต่ประเทศไป”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นไปได้เหรอที่ป้ายเหล่านั้นมาติดตั้ง แต่ที่น่าตกใจคือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องออกมาให้ข่าวว่า “ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ประเทศอื่น ๆ เขาก็ทำกัน” ซึ่งตนเองเห็นว่า ผิดกฎหมาย เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ และ หลอกลวงคนอื่นให้เข้าใจว่าสามารถช่วยเหลือในการได้มาซึ่งสัญชาติไทยได้
“นี่มันเหิมเกริมถึงขั้นเข้ามานิ่ม ๆ แล้วขายสัญชาติไทยให้คนจีน (เพราะเขียนเป็นภาษาจีน) กันอย่างเอิกเกริกในใจกลางหัวใจของ กทม. ที่มีสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตั้งอยู่ มันมากเกินไปครับ อธิปไตยของไทยถูกย่ำยี แล้วเรายังมานั่งเฉยบอกว่าไม่ผิดกฎหมายไม่ได้”
นายกัณวีร์ ยืนยันว่า จะต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะอธิปไตยไทยถูกละเมิดอย่างแนบเนียน หรือหากเป็นการยินยอมโดยสมัครใจยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าและต้องมีผู้รับผิดชอบ