ครม.อนุมัติงบฯฉุกเฉิน 275 ล้าน จัดโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER หวังสร้างรายได้คืน 2.2 พันล้าน

MUAYTHAI
MUAYTHAI

ครม.อนุมัติงบฯกลาง 67 งบฯกลาง รายการสำรองจ่ายฉุกเฉิน 275.65 ล้านบาท ใช้ทำโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER ปี 2567 คาดจะสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ 2,234 ล้านบาท และการรับรู้ไป 190 ประเทศทั่วโลก

วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย โครงการมวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ประจำปี 2567 จำนวน 275 ล้านบาท เพื่อยกระดับมวยไทย จากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวประจำชาติไปเป็นระดับโลก เช่น การจัดหลักสูตรมวยไทย การอบรมผู้ตัดสิน และผู้ฝึกสอน การตั้งศูนย์ตรวจสอบมาตรฐานครูฝึกมวยไทย การตรวจรองรับค่ายมวยในต่างประเทศ

นายกฯกล่าวว่า เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะมวยไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลก และยังมีคำว่าไทยอยู่ด้วย จะบิดว่ามาจากประเทศไหนหรือจากที่ไหน คงไม่มีใครเถียงได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีกีฬาที่คล้ายมวยไทยเราต้องระมัดระวัง ดังนั้นการที่เราเป็นเจ้าของมวยไทยแบบพูดได้เต็มปาก ตนจึงเสนอ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาไปว่า ฟุตบอลมีสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่ากำกับ เรื่องมวยไทยก็ต้องมีองค์กรหรือฟีฟ่าของมวยไทยขึ้นมา เพื่อให้รู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับมวยไทยว่าเราเป็นผู้ริเริ่มและยกระดับไปสู่สากล

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบฯกลาง ในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 275.65 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER ปี 2567

โดยแบ่งเป็น 6 โครงการ ประกอบด้วย 1.การพัฒนาองค์ความรู้มวยไทย จำนวน 4,925,400 บาท 2.การเพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของบุคคลในวงการกีฬามวย จำนวน 46,602,400 บาท 3.การจัดการแข่งขันมวยไทยเพื่อสร้างกระแสความตื่นตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจ จำนวน 143,716,800 บาท

4.การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กีฬามวยไทยทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 23,641,800 บาท 5.การรับรองมาตรฐานมวยไทยสู่การสร้างรายได้กับประเทศ จำนวน 51,042,600 บาท 6.การกำกับ ติดตาม ประเมินและรายงานผล จำนวน 5,717,800 บาท

ADVERTISMENT

นายคารมกล่าวอีกว่า แผนโครงการ MUAYTHAI SOFT POWER มีเป้าหมายในการยกระดับมวยไทยจากศิลปะการต่อสู้ประจำชาติสู่การเป็นศิลปะการต่อสู้ระดับโลก สามารถให้นักมวยไทย ครูมวยไทย เทรนเนอร์มวยไทย รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจมวยไทยได้มีโอกาสแข่งขันและถ่ายทอดวิชาความรู้เพื่อเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมสู่ระดับนานาชาติ เพื่อสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มด้วยมาตรฐานระดับโลกสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

ทั้งนี้คาดการณ์ว่า จะสามารถสร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ 2,234 ล้านบาท และสร้างการรับรู้กิจกรรมมวยไทยในต่างประเทศ 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาประเทศไทยและนำรายได้เข้าประเทศ

ADVERTISMENT