ชื่นมื่น ‘นายกฯไทย-นายกฯมาเลเซีย’ หารือทวิภาคี ตอกย้ำความมุ่งมั่นความสงบสุข-การท่องเที่ยว-พัฒนาความเป็นอยู่ประชาชน 2 ประเทศ ‘เศรษฐา’ ย้ำลงพื้นที่ร่วมกันมีจุดมุ่งหมายเพื่อสันติภาพ-ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปพบ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม บริเวณด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายเศรษฐา ให้การต้อนรับพร้อมจับมือทักทาย ก่อนที่นายกรัฐมนตรี 2 ประเทศจะร่วมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก
โดยนายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ร่วมกันครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Peace and Prosperrity) และแสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ ความจริงจังและเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันเพื่อรักษาความสงบในบริเวณชายแดน
พร้อมขอบคุณมาเลเซีย สำหรับการขับเคลื่อนความร่วมมือ ผ่านการจัดประชุมคณะทำงานด้าน การค้าชายแดน และการค้าการลงทุนและหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันหลักการให้จัดประชุมคณะทำงาน working group ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะหารือกันในกรอบความร่วม มือ JC และ JDS พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่าย ตกลงร่วม ในความร่วมมือเกี่ยวกับสินค้าและมาตรฐานฮาลาล ทั้งสอง ประเทศเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ในโอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อความร่วมมือในการขุดลอกแม่ล้ำโกลก พี่ตื้นเขิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม โดยฝ่ายมาเลเซียขอความช่วยเหลือในการหารือนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่าจะสั่งการกระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความร่วมมือต่อไป
ในช่วงท้าย ของการหารือนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนาน ข้ามแม่น้ำโกลก
ต่อมานายเศรษฐา เดินทางถึง Pasir Mas District and Land Office รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยมีการแสดงเครื่องคอมปังต้อนรับ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีดั้งเดิมของมาเลเซียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักใช้ในงานรื่นเริง เช่น ในขบวนพาเหรดงานวันชาติ งานเลี้ยงที่เป็นทางการ เป็นต้น
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยม จากนั้นนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 ประเทศ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
โดยนายเศรษฐา กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นถือเป็น และเป็นเครื่องสะท้อนว่าทั้งสองประเทศมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้น สะพานสุไหงโก-ลกจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี และเป็นโอกาสที่ได้หารือกันเรื่องเขตการค้าพิเศษระหว่างกัน
ทั้งนี้การหารือในครั้งนี้จะเป็นโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับมายังพื้นที่นี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อชื่นชมพัฒนาการที่เกิดขึ้น
จากนั้นเวลา 14.16 น.นายเศรษฐา ทวิตข้อความผ่าน X ระบุว่า การลงพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซียกับท่านนายกฯ @anwaribrahim วันนี้ เรามาเพื่อย้ำความมุ่งมั่นเรื่องความสงบสุขและการพัฒนา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนสองประเทศ ตนได้มาเยี่ยม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ได้ดูโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่อมโยงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยและภาคเหนือของมาเลเซียร่วมกัน
นายกฯ ระบุอีกว่า เรายังได้หารือกันเกี่ยวกับการพัฒนาถนน และรถไฟ เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร และโครงการ Rubber City ที่จะเชื่อมโยงระหว่าง สงขลาและรัฐเคดะห์ 2 จุด ซึ่งจะช่วยพัฒนาการผลิตยางร่วมกันให้ส่งออกได้มากขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมฮาลาลที่ทางมาเลเซียมี Pasir Mas Halal Park ที่กลันตัน ตรงนี้ยังต้องการวัตถุดิบและสินค้าจากไทย อีกประเด็นคือ การขับเคลื่อนการท่องเที่ยว “Six Countries, One Destination” ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว.