สื่อนอกมอง ศาลยุบพรรคก้าวไกล ประชาธิปไตยไทยถอยหลังครั้งใหญ่

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ภาพโดย รอยเตอร์ส
Former Move Forward party leader Pita Limjaroenrat looks on as he arrives at the party headquarters after Thailand's Constitutional Court delivered its verdict on a case seeking the dissolution of the opposition group over its call for lese-majeste reform, in Bangkok, Thailand, August 7, 2024. REUTERS/Chalinee Thirasupa TPX IMAGES OF THE DAY

ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) 10 ปี เหตุว่ามีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สำนักข่าวต่าง ๆ รวมถึงสำนักข่าวจากต่างประเทศ เช่น บีบีซี (BBC) รอยเตอร์ (Reuters) ซีเอ็นเอ็น (CNN) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลในครั้งนี้ ซึ่งทางประชาชาติธุรกิจรวบรวมมุมมองของสำนักข่าวดังกล่าว ที่มีต่อประเด็นทางการเมืองมาไว้ดังนี้

พรรคชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย ถูกยุบ

รอยเตอร์รายงานว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกลถือเป็นการถดถอยครั้งใหญ่ของประชาธิปไตยไทย รวมถึงการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคอย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักการเมืองที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

รอยเตอร์ระบุอีกว่า พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งโดยได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับหนึ่ง และมีที่นั่งในสภาถึง 151 ที่นั่ง แม้จะชนะอย่างเด็ดขาด แต่พรรคก้าวไกลกลับถูกกีดกันไม่ให้จัดตั้งรัฐบาลในสภา จนในที่สุด พรรคเพื่อไทยซึ่งได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับสองได้แยกออกมาจัดตั้งรัฐบาลเอง

การยุบพรรคก้าวไกลครั้งนี้ นับเป็นการพรากสิทธิเลือกตั้งทั้ง 14 ล้านเสียง

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การตัดสินยุบพรรคก้าวไกลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทยจะส่งผลร้ายแรงครั้งใหญ่ต่อความเคลื่อนไหวของฝ่ายก้าวหน้า

ADVERTISMENT

องค์กรที่อ้างว่าเป็นอิสระ

บีบีซีรายงานว่าสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหาร มีส่วนสำคัญในการกีดกันไม่ให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ โดยอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้กฎหมายอาญาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือมาตรา 112

รวมทั้งองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ก.ก.ต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ที่มีอิทธิพลเหนือรัฐสภา และเป็นตัวตั้งตัวตีในการยื่นฟ้องต่อศาลให้ยุบพรรคก้าวไกล

ADVERTISMENT

กลุ่มอนุรักษนิยมพยายามรักษาอำนาจเดิม

บีบีซีรายงานว่ากลุ่มอนุรักษนิยม ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่พระราชวัง กลุ่มทหารที่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ผู้พิพากษาอาวุโส เจ้าสัว กลุ่มกองทัพและตำรวจ ใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิทักษ์ในการรักษาสถานะเดิม (status quo) 

ซีเอ็นเอ็นระบุว่าการตัดสินยุบพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครสามารถเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้อีกต่อไป ทั้งนี้ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การพูดถึงราชวงศ์อย่างตรงไปตรงมา สามารถทำให้ติดคุกได้ และมีนักกิจกรรมหลายคนที่ต้องติดคุก ลี้ภัย หรือต่อสู้กับคดีอาญา จากความผิดมาตรานี้

นโยบายและผลกระทบที่ละมุนละม่อมแล้ว

อย่างไรก็ตาม บีบีซีมองว่านโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ของก้าวไกลถือว่าละมุนละม่อมมากแล้ว กระนั้นก็ยังถูกตัดสินว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจนถูกตัดสินยุบพรรค

รอยเตอร์มองว่า ผลกระทบที่ก้าวไกลได้รับถือว่าเล็กน้อย เนื่องจากสมาชิกสภาที่เหลืออีก 144 คนยังสามารถมีที่นั่งเช่นเดิม หากหาพรรคใหม่ได้อย่างที่เคยทำตอนยุบพรรคอนาคตใหม่