
ดีเอ็นเอพรรคสีส้มรุ่น 3 ภายใต้แม่ทัพหญิง ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ รอวันสู้ศึกก๊วนการเมืองบ้านใหญ่
ยุบพรรค คำสั่งประหารที่นักการเมืองไทยต่างขยาดกลับมาอีกครั้ง เมื่อ 9 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ทำให้ 143 สมาชิกค่ายสีส้มจาก 148 คน ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด หาพรรคใหม่อยู่ภายใน 60 วัน มิฉะนั้นจะขาดจากสถานะ สส.
ชะตาชีวิตของสมาชิกที่เหลือจะเดินอย่างไร กลายร่างเป็นงูเห่าเลื้อนเข้าฟาร์มใหม่ สมัครสมานกลมเกลียวรวมตัวในบ้านหลังใหม่ หรือจะอยู่แบบหนอน ๆ ในบ้านสีส้ม ภายใต้การนำของ ศิริกัญญา ตันสกุล แม่ทัพหญิง เพื่อรอวันประกาศศึกกับแพทองธาร ชินวัตร แม่ทัพค่ายสีแดง DNA สายตรง อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
‘ประชาชาติธุรกิจ’ พาย้อนดูอดีตเส้นทางอนาคตใหม่สู่ ‘อนาคตไหม’ ที่รอวันเปิดตัวสังกัดใหม่ร่าง 3 ในวันที่ 9 ส.ค. นี้
5 ปีวิบากกรรมการเมืองค่ายส้ม อนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล
หากย้อนวิบากกรรมค่ายการเมืองสีส้ม 1 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมตัดสิทธิ 16 กรรมการบริหารพรรค ภายใต้การนำของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คดีที่ ธนาธร ให้พรรคกู้เงิน 191 ล้านบาท หลังจากนั้นจึงก่อกำเนิดพรรคก้าวไกล โดยมี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมกับ สส.และสมาชิกส่วนใหญ่ที่ย้ายตามมา
จากนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมปี 2566 การเมืองไทยเหมือนเข้าสู่สถานการณ์ปกติ หลังผ่านพ้นยุคการนำของรัฐบาลอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคก้าวไกล ได้คะแนน สส.เป็นอันดับหนึ่ง ถึง 151 เสียง แต่สุดท้ายไปไม่ถึงฝั่งฝันตั้งรัฐบาลไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนสถานะเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน
วิบากกรรมยังไม่จบ พิธาถูกจับขึ้นเขียงคดีถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น แต่สุดท้ายรอดมาได้ และล่าสุดมาตกม้าตายจากคดีนโยบายยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในการหาเสียงการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ศิริกัญญา ตันสกุล แม่ทัพส้ม รุ่น 3
หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล ไม่ถึง 3 ชั่วโมง อดีตรองหัวหน้าพรรคส้ม ประกาศเดินหน้าทางการเมืองค่ายสีส้ม ทันทีว่า พวกเรา (สมาชิกพรรคก้าวไกล) แม้ต้องเจ็บปวดจากคำวินิจฉัยยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม แต่ก็จะไม่ละทิ้งความฝันและภารกิจหน้าที่ที่ได้รับมอบจากประชาชน
ฉะนั้นตราบใดที่ประชาชนยังอยู่เคียงคอยหนุนหลังให้เดินหน้าทำภารกิจเปลี่ยนประเทศ ก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป พร้อมชักชวนสมาชิกหนึ่งแสนคนย้ายเข้าสู่บ้านหลังใหม่
เปลี่ยนความแค้นเป็นพลังเพื่อจุดหมาย “ส้มทั้งแผ่นดิน”
ค่ำคืนวันถูกยุบพรรคก้าวไกล ศิริกัญญา ขึ้นเวทีเปิดใจทั้งน้ำตา พร้อมเผยถึงทิศทางในอนาคตว่า นี่เป็นการยุบพรรคครั้งที่ 2 ในชีวิต ไม่รู้สึกชิน เพราะมองว่าอำนาจสูงสุดควรอยู่ที่ประชาชนในการขีดชะตาชีวิต
ไม่ควรมีคนต้องมาบอกว่าประเทศควรมีผู้นำแบบไหน มีพรรคการเมืองแบบไหน สามารถเลือกใครได้หรือไม่ได้ ประชาชนควรมีสิทธิในการบอกว่า อยากได้ผู้นำ สส.แบบไหน เหมือนอย่างการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่มีคนเลือกพรรคก้าวไกล 14 ล้านเสียง
ฉะนั้น จากนี้ประชาชนที่มอบชีวิตให้มา จะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของพวกตน (อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล) และคอยบอกว่า สส.ของพรรคควรทำอย่างไรต่อ
“เราจะแปรความแค้น ความเจ็บ ความโกรธ เป็นพลังเพื่อที่จะสู้ต่อ”
ศิริกัญญา ในวัย 43 ปีกล่าวอีกว่า การยุบพรรคก้าวไกล แม้เสียใจแค่ไหน แต่ก็ต้องฮึบ ๆ ไว้ เพื่อเป็นแรงที่จะส่งไปสู่พลังในการเลือกตั้งครั้งต่อไป รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดพิษณุโลกต้องส้มทั้งพิษณุโลก เลือกนายกฯ อบจ.ก็ต้องส้มทั้งแผ่นดิน เพื่อส่งสัญญาณให้ผู้มีอำนาจได้รู้ว่า ตอนนี้ทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น
ศิริกัญญากล่าวทิ้งท้ายกับมวลชนว่า ศึกของเรา (พรรคสีส้ม) ยังอีกไกล วันหนึ่งจะเป็นวันของเราที่ประชาชนจะมีอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน
อนึ่ง หลังจากนี้ต้องติดตาม เมื่อพรรคการเมืองค่ายสีส้มฟื้นคืนชีพอีกครั้ง อนาคตการเมืองภายใต้การนำของ ‘ไหม ศิริกัญญา’ จะไปถึงฝั่งฝันหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
ที่มาภาพ : เพจฯก้าวไกล