เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ เป็นเวลาครบ 4 ปี ที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้การปกครองของคณะรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องการเลือกตั้งอย่างสันติ เรียกร้องสิทธิอันควรเป็นของพวกเขาและประชาชนไทยทุกคน ได้ถูกจับกุมไปอย่างน้อย 12 คน กรณีนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า นี่คือ 4 ปีที่ชาวไทยไร้สิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่แค่การละเมิดต่อผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 12 คน ไม่ใช่แค่การละเมิดต่อผู้ชุมนุมจำนวนมากที่ออกมาแสดงสิทธิเสรีภาพของตนเองในวันนี้ แต่ยังเป็นการละเมิดต่อคนไทยทั้งประเทศที่อยากเห็นการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศของเราหลุดพ้นจากระบอบการเมืองของคณะรัฐประหาร ขอยืนยันว่า สิทธิการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องได้รับ และขอให้กำลังใจผู้ที่ออกมาชุมนุมในวันนี้ ทุกคนคือผู้ที่กล้ายืนหยัดเพื่อความถูกต้อง แม้จะต้องรับผลอันหนักหนาสาหัสจากสิ่งที่รัฐบาลทหารเรียกว่ากฎหมาย
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ใช่แค่เสรีภาพเท่านั้น ที่เราสูญเสียไปใน 4 ปีภายใต้ คสช. มันยังเป็น 4 ปีที่พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้วว่า การปราบคอรัปชั่นโดยรัฐบาลเผด็จการไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคการเมืองและประชาชนไม่สามารถทำได้ภายใต้ระบอบแบบนี้ นี่เป็น 4 ปีที่พิสูจน์ว่า “การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” หรือการปฏิรูปใต้อำนาจรัฐบาลทหาร ไม่มีวันเป็นการปฏิรูปเพื่อประชาชน ซ้ำร้ายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาในยุค คสช. ซึ่งจะยังคงอยู่กับสังคมไทยไปอีกนาน มรดกจากการรัฐประหารเหล่านี้จะทำให้ประเทศจมปลักอยู่กับที่ และกลายเป็นคนป่วยแห่งเอเชีย การลงทุนจากต่างประเทศลดฮวบ จีดีพีโตช้ากว่าเพื่อนบ้าน เป็น 4 ปีที่เราเสียโอกาสในการวางนโยบายที่ชาญฉลาด รับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ที่มากับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมในระดับสากล
“ผมพูดเสมอว่าชีวิตผมผ่านการรัฐประหารมา 5 ครั้ง ในเวลาเพียง 40 ปี มันมากเกินไปแล้วสำหรับประเทศไทย ที่อยู่ๆ ก็มีกระบวนการนอกกฎหมายมาขัดขวางการเติบโตของประชาธิปไตย การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง นักการเมืองต้องถูกตรวจสอบโดยประชาชนและองค์กรตามกฎหมาย ไม่ใช่ด้วยคณะรัฐประหารที่ไม่มีใครตรวจสอบได้ ผู้ที่เรียกร้องการเลือกตั้ง ผู้ที่ออกมาแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพอันพึงมีของพลเมือง ไม่ควรถูกดำเนินคดี ตรงกันข้าม ผู้ก่อรัฐประหารและผู้ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องถูกดำเนินคดี ในอนาคตอันใกล้ มรดกของคณะรัฐประหารต้องถูกลบล้างได้โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราทุกคน ทุกพรรคการเมือง ต้องร่วมกันปักธง สร้างบรรทัดฐานนี้ให้เป็นจริง เพื่อที่จะไม่มีใครกล้าทำรัฐประหารอีกต่อไป”นายธนาธร กล่าว