
เกมเดิมพันอนาคต “ตระกูลชินวัตร” ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม้ตายส่งแก้วตาดวงใจนั่งผู้นำ วัย 38 ทักษิณ ระดมขุนพลเพื่อภารกิจองครักษ์พิทักษ์ DNA บ้านจันทร์ส่องหล้า
ของขวัญวันเกิดอายุ 38 ปี แพทองธาร ชินวัตร ชิ้นใหญ่คือการได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ผู้มี DNA เดียวกับ 3 นายกฯตระกูลชินวัตร และสายเลือดตรงตำนานอดีตนายกฯที่ชื่อทักษิณ
ฉะนั้นการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง นายกฯอิ๊งค์ จากนี้จึงถูกจับตามอง เพราะภารกิจเดิมพันต่อไป นอกจากสานงานรัฐบาลเศรษฐา ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นประเทศ ยังเดิมพันด้วยความน่าเชื่อถือของคนนามสกุลชินวัตร ในวันที่สถานการณ์โลก สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต
การที่ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ทิ้งไพ่ไม้ตายส่งแก้วตาดวงใจ ลงสู่เกมบนสนามการเมือง ย่อมต้องระดมสรรพกำลังและความปลอดภัยขั้นสูงสุด เห็นได้จากการตั้ง ครม.แพทองธาร 1 สแกนประวัติรัฐมนตรีเข้มข้น รวมถึงต้องเกณฑ์มือดีมาช่วย ถึงขั้นทักษิณออกปากเป็นห่วงจะคอยให้คำแนะนำ รวมทั้งต้องมีคนมาช่วยเยอะ และการทำงานจากนี้ต้องเป็นทีม ไม่ใช่เรื่องที่คนคนเดียวคิด
เช็กขุนพลข้างกายทักษิณ รัฐมนตรีคู่บารมีนายกฯอิ๊งค์
หากสแกนดูมือดีคู่กายทักษิณ ที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาในอดีตตั้งแต่ยุคตั้งไข่ได้ 244 เสียง สู่ยุคเฟื่องฟู 377 เสียง วันนี้แม้ 141 เสียง ก็ไม่หนีไปไหน คอยช่วยงานนายกฯอิ๊งค์ หนีไม่พ้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกฯและรัฐมนตรีรัฐบาลยุคทักษิณ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีรัฐบาลทักษิณ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง นักการเมือง สส.ถิ่นโคราชที่อยู่ค่ายตระกูลชินฯมาตั้งแต่ไทยรักไทย และ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา นักรบที่อยู่ข้างนายใหญ่มานาน
ขณะที่สหายเก่าแม้เคยปันใจ วันนี้ก็กลับมาช่วย DNA ทักษิณ อย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกฯและรัฐมนตรีกระทรวงเกรด A อย่างคมนาคม รวมถึงคู่หูกลุ่มสามมิตร ผู้ไม่เคยอยู่ฝ่ายค้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองที่ดำรงแหน่งรัฐมนตรีมากสุดในยุคนี้ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย
ฟากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำไทยรักไทย ก็เป็นลมใต้ปีกดันศิษย์เอก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรียุคทักษิณ แกนนำไทยรักไทย ผู้ที่แม้อยู่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่หากเอ่ยถึงชื่อทักษิณเมื่อไหร่ ก็จะเรียก “นาย” ทุกคราไป ก็ร่วมหนุนลูกนายเก่า นอกจากนี้ยังมี ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่คลอดงานการเมืองจากไทยรักไทย
บุคคลเหล่านี้ ยังไม่นับรวมเครือข่ายทีมงานอดีตนายกฯทักษิณ ที่แม้ไม่ลงสนามด้วยตัวเอง แต่ส่งตัวแทนมาช่วยเสริมทัพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้รัฐบาลแพทองธาร 1
แต่ผลงานฝีมือการบริหารจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตาม…
นโยบายบรรทัดเดียว ทีเด็ด 3 พรรคเครือข่ายตระกูลชินวัตร
ไทยรักไทย ปี’44 เปิดศักราชการเมืองด้วยการใช้นโยบายบรรทัดเดียวเป็นจุดขาย จากนั้นเป็นจุดขายดันให้พรรคการเมืองเครือข่าย อดีตนายกฯทักษิณ ชนะเลือกตั้งถึง 4 ครั้ง และเป็นคอนเซ็ปต์ที่พรรคการเมืองรุ่นหลังต่างใช้หาเสียงเรื่อยมา
จากผลลัพธ์นโยบายเข้าใจง่าย ทำให้ไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง 2 สมัยติด ปี’44 ได้ 11 ล้านเสียง ปี’48 ได้คะแนนท่วมท้นถล่มทลายเกือบ 19 ล้านเสียง ก่อนถูกยุบพรรคในปี’50
จากนั้นเข้าสู่ยุคพรรคพลังประชาชน ปี’50 ได้ 12 ล้านเสียง และอยู่ภายใต้การบริหารของ 2 นายกฯ สมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่สุดท้ายถูกยุบตามรอยไทยรักไทย ก่อนเว้นว่างไปช่วงหนึ่งสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หลังจากนั้นด้วยจุดแข็งนโยบายบรรทัดเดียว ทำให้ปี’54 พรรคเพื่อไทยกลับมาได้ 15 ล้านเสียง ส่งให้บ้านชินวัตร มีนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 คือ ยิ่งลักษณ์ ก่อนถูก คสช.ยึดอำนาจและตั้งรัฐบาลดึงเกมอยู่ยาว 9 ปี
การเลือกตั้ง ปี’66 เพื่อไทยเกือบหลับแต่กลับมาได้ ผลเลือกตั้งได้ 11 ล้านเสียง แพ้พรรคก้าวไกล ที่ได้คะแนนมากถึง 14 ล้านเสียง แต่ยังไม่ถึงเส้นชัย สุดท้ายเพื่อไทย รวมเสียงตั้งรัฐบาล ดันนักธุรกิจหุ่นสมาร์ทส่วนสูง 192 เซนติเมตร เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ เกือบ 1 ปีก่อนตกสวรรค์ และส่งไม้ต่อให้แพทองธาร
23 ปี นโยบาย DNA ไทยรักไทย สู่เพื่อไทย
ย้อนดูผลงานสร้างชื่อส่วนใหญ่ของพรรคเครือข่ายทักษิณ ล้วนอยู่ในยุคทองไทยรักไทย ที่เปิดตัวด้วยสโลแกน “คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน” หลายนโยบายยังอยู่ในความทรงจำคนไทย ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ปัจจุบันยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่, หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP), หวยบนดิน, ขยายเวลาพักชำระหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน และการประกาศสงครามกับยาเสพติด
จากนั้นยุคพรรคพลังประชาชน แทบไม่มีผลงานอะไรนัก เนื่องจากเกิดในช่วงสถานการณ์การเมืองไม่มั่นคง อยู่ได้ไม่ถึงปีก็ถูกยุบ
สุดท้ายฟื้นคืนชีพก่อกำเนิดพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารของนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งมีผลงานเด่นหลายเรื่อง อาทิ ขึ้นค่าแรง ป.ตรี เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท, ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท, โครงการรถยนต์คันแรก, ลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก, กองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท, โครงการรับจำนำข้าว เป็นต้น
ขณะที่นโยบายรัฐบาลเศรษฐา เพื่อไทย ยุค 2 เน้นต่อยอดพัฒนาจาก DNA นโยบายในอดีต อาทิ ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่, กระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต, เร่งสร้างรายได้ภาคการท่องเที่ยว, แก้ปัญหาหนี้, ลดภาระค่าพลังงาน, เปิดประตูเจรจาพัฒนาการค้า การลงทุน เป็นต้น
ฉะนั้นหลังจากนี้ต้องดูว่า นายกฯอิ๊งค์ เมื่อขึ้นสู่อำนาจจะสานงานนโยบายเรือธงของเพื่อไทย ไปทิศทางใด ท่ามกลางขุนพลที่ผู้พ่อ ระดมสรรพกำลังให้มาช่วย เพราะนี่เป็นการเดิมพัน สร้างความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทย และอนาคตบ้านชินวัตร ก่อนที่ 3 ปี การเลือกตั้ง 70 จะมาถึง