
เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาฯ ปชป. มองชาติ-ประชาชน ไม่ทิ้งโอกาสร่วมรัฐบาล ชี้ ชาวสงขลาเชียร์ทุกวัน
วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวพรรคเพื่อไทยประสานมายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เข้าร่วมรัฐบาลว่า เบื้องต้นถ้ามีการพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนเดียวที่จะถูกติดต่อได้ เพราะฉะนั้นหากติดต่อมาก็ต้องติดต่อที่นายเฉลิมชัย
เมื่อถามว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเหมือนเดิม ถ้าพูดคุยเบื้องต้น หัวหน้าพรรครับเทียบเชิญมาแล้ว ก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค และ สส. หากที่ประชุมบอกว่าไม่เข้าร่วมรัฐบาล ก็ต้องไม่ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าที่ประชุมส่วนใหญ่บอกให้ร่วมรัฐบาล แล้วเราจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
ซึ่งเหมือนกับสมัยที่แล้วที่ถกเถียงกันถึง 1 วัน 1 คืน ฝ่ายที่เห็นว่าควรร่วมรัฐบาล 61 คะแนน ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ 16 คะแนน นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค พอผลลงมติออกมา 16 คะแนนนั้นก็มาอยู่กับฝ่ายที่เห็นชอบ 15 คะแนน ส่วนนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค จึงเป็นมติร่วมรัฐบาล
“วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่จะว่าอย่างไร เราก็ว่าตามนั้น พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้เพราะมติพรรค” นายเดชอิศม์กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกประชุม กก.บห. และ สส.เมื่อใด นายเดชอิศม์กล่าวว่า เดี๋ยววันนี้ (22 ส.ค.) ตนจะเจอกับนายเฉลิมชัย ก็จะถามว่าประชุมเมื่อใด เทียบเชิญร่วมรัฐบาลมาแล้วหรือยัง ส่วนข้อเท็จจริงว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้โควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง นายเดชอิศม์กล่าวว่า ตนก็ได้แต่ข่าวเหมือนกัน ส่วนรายละเอียดต้องถามหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า ตามกระแสข่าวมีรายชื่อนายเดชอิศม์ และนายเฉลิมชัย เป็นรัฐมนตรีด้วย หากพรรคประชาธิปัตย์มีการเข้าร่วมรัฐบาลจริง และมีการเสนอชื่อตามนั้น และพร้อมจะทำหน้าที่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า สส.ในพรรคส่วนใหญ่แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม ก. สส.ที่พูดเก่ง ตำหนิเก่ง วิจารณ์เก่ง พวกนี้เขาจะทำงานไม่ค่อยเก่ง พวกนี้ก็จะมีความคิดไม่อยากร่วมรัฐบาล
ส่วนกลุ่ม ข. พูดอาจไม่เก่ง ตำหนิไม่เก่ง แต่เขาทำงานเก่ง เขาจึงถือว่ารอโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล เพราะจะได้มีโอกาสสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และประชาชน เท่ากับสร้างผลงานให้กับพรรคตัวเองได้ด้วย ดังนั้นกลุ่มไหนมากกว่ากลุ่มนั้นก็ชนะ
เมื่อถามย้ำว่า นายเดชอิศม์ ถือเป็นกลุ่ม ข.หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของการเมือง เข้ามาเป็น สส. อยากช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว เรามองข้ามพรรคไปแล้ว แต่เรามองไปถึงชาติ และประชาชน ถ้ามีโอกาสช่วยเหลือประเทศ และประชาชนต้องไม่ทิ้งโอกาส
ต่อข้อถามว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ เพราะกลุ่มอาวุโสในพรรคหลายราย ที่ไม่เห็นด้วย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ท่านอาจจะพูดก่อนที่จะลงมติ แต่พอลงมติแล้ว ตนเชื่อว่าทุกคนเคารพมติพรรค
เมื่อถามว่า จะไม่ทำให้พรรคแตกใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะรอบที่ผ่านมา ทุกคนคิดว่าพรรคแตก แต่ก็ออกไปแค่คนเดียว คือนายอภิสิทธิ์ ที่บอกว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ แล้วลาออกไป
เมื่อถามว่าหากมีการเข้าร่วมรัฐบาลจริงถือว่าจะไม่เสียอุดมการณ์ของพรรคที่เคยอภิปรายรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายเดชอิศม์กล่าวว่า วันนี้ต้องรีเซตประเทศไทย ไม่ใช่รุ่นปู่ตนทะเลาะกับปู่ของสื่อมวลชน แล้วมารุ่นตนต้องโกรธกันด้วย ตนว่าไม่ใช่ ขอให้มองที่ประเทศชาติและประชาชน เพราะวันนี้เราเสียโอกาสไปเยอะมาก ถ้ามีโอกาสเราก็อยากช่วยเหลือ
เมื่อถามว่ามีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ในส่วนของนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์กลัวว่าจะมีปัญหาหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ตนไม่มีประวัติหรือคดีใด ๆ เลย ไม่เคยเป็นผู้ต้องหาใด ๆ ดังนั้นคุณสมบัติของตนพร้อมที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่อยู่ที่ที่ประชุมพรรค และพรรคแกนนำด้วยว่าจะเชิญหรือไม่เชิญ
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมามีข่าวการพูดคุยกันที่บ้านดาวล้อมเดือนของนายเฉลิมชัย มีการเสนอเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่มี และขอปฏิเสธว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่จริง ไม่เจอทั้งนายเฉลิมชัย และตน และยังไม่เคยพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย เพราะถ้าจะร่วมรัฐบาลก็เป็นเรื่องระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่นใด ๆ เลย หลายคนไปมองว่าพลังประชารัฐออกไป ประชาธิปัตย์เข้า ที่จริงไม่เกี่ยวกันเลย เขาจะอยู่ จะไป ก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ
เมื่อถามอีกว่าในเบื้องต้นมีการพูดคุยกันไว้บ้างหรือไม่ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายเดชอิศม์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ดีต่อกัน นายเดชอิศม์กล่าวว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตนเคารพนับถือนายทักษิณ แต่เรื่องการร่วมรัฐบาลเราได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนพูด
ต่อข้อถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลอาจถูกมองว่าโดดเดี่ยวพรรคประชาชนให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายเดชอิศม์กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ถ้ามองในเชิงฝ่ายค้านก็อาจจะมองได้ แต่ถ้ามองว่าเราอยากสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และสร้างผลงานให้กับพรรคเรา โดยแนวคิด อุดมการณ์ที่เรามีเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็มองในมุมนั้นได้
เมื่อถามว่าหากไปร่วมรัฐบาลแล้วในระยะยาวพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกปิดสวิตช์เพราะเสียฐานเสียงได้ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่มี ถ้าเราไปสร้างผลงานให้โดดเด่นระดับประเทศ เราสามารถกู้ศรัทธาได้ แต่ถ้าเราทำงานไม่ได้เลย ทุกพรรคก็โดนประชาชนลงโทษหมด
เมื่อถามย้ำว่าแฟนคลับบอกว่า หากเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ประชาธิปัตย์อาจสูญพันธุ์ นายเดชอิศม์ย้อนถามว่า “แฟนคลับที่ไหนไม่ทราบ แต่บ้านผมที่จังหวัดสงขลาเชียร์ทุกวัน ถ้ามีโอกาสต้องร่วมรัฐบาลเพื่อมาแก้ปัญหา มาแก้ทุกข์ให้กับประชาชนให้ได้ และผมถาม สส.เกือบทุกเขตพูดอย่างนั้น”
เมื่อถามว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองหรือไม่ หลังจากที่นายทักษิณไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แล้วกลับมาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ให้ร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่หรอก ถ้านายทักษิณคิดแบบนั้นคงเอาเราเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่ครั้งนี้นายทักษิณคงมาเห็นปัญหา อาจมีบางส่วนที่คิดว่าน่าจะเสริมให้กับประเทศ มาช่วยกันแก้ปัญหาประเทศมั้ง ซึ่งตนคิดว่าอย่างนั้น