
นายกฯ เคลียร์บัญชีทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว “ครม.แพทองธาร” ได้ชื่อรัฐมนตรีทุกพรรค ตรวจคุณสมบัติเข้มข้น 2 เท่า เพื่อไทยพลิกเกมใช้โควตากลาง ให้ทีมธรรมนัส 2 ตำแหน่ง ประชาธิปัตย์ขึ้นขบวนพรรคร่วมรัฐบาล ส่งชื่อว่าที่รัฐมนตรีแล้ว 2 ราย ธุรกิจเอกชนเชื่อแจกเงิน 10,000 ฉลุย
การตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่ลงตัว อยู่ในกระบวนการส่งรายชื่อรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล และการตรวจคุณสมบัติ ทั้งนี้ การตรวจคุณสมบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ปกติใช้เวลาเพียง 3-4 วัน แต่ครั้งนี้อาจต้องใช้เวลานานถึง 7 วัน
สำหรับปัญหาโผรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังคงยืนยันส่งโผรายชื่อ ครม.มาทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค กับฝ่าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะเสนอชื่อรัฐมนตรีเป็น “โควตาคนนอก” ที่อยู่ในสายของเพื่อไทย เพื่อตัดปัญหาข้อกฎหมายออกไป ประกอบด้วย 2 ชื่อ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.เกษตรฯ และนายอัครา พรหมเผ่า เป็น รมช.เกษตรฯ ฝ่าย พล.อ.ประวิตร ยืนยันโควตาเดิม พปชร. สส. 40 คน ได้ 4 ตำแหน่ง
ส่วนโควตาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มี 2 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค ได้กรอกประวัติการเป็นรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
เลือกรัฐมนตรีเป็นอำนาจนายกฯ
วันที่ 27 ส.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 พร้อมทั้งตอบคำถามกรณีที่พรรคพลังประชารัฐมีการส่งหนังสือมาทวงเอกสารกรอกคุณสมบัติให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ว่าเป็นปัญหาภายในของเขา ซึ่งต้องไปดูให้เป็นไปตามกระบวนการ และในข้อเท็จจริงแล้ว ใน ครม.ไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ก็เป็นการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้รอสักหน่อย
เมื่อถามย้ำว่า ขั้นตอนเมื่อสะเด็ดน้ำแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมด น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ใช่ค่ะ และในขณะนี้จะต้องตรวจคุณสมบัติหลายพรรค หลายขั้นตอน และเห็นว่าหลายอันยังติดนั่นติดนี่อยู่ ซึ่งมีหลายขั้นตอน และยอมรับว่าตนเองก็ไม่เคยทำมาก่อน”
เมื่อถามว่า นายกฯ เป็นผู้พิจารณาเลือกตำแหน่งรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่าแน่นอน และจะมีการให้คำปรึกษาของคนที่อยู่ใน ครม.อยู่แล้ว หรือคนที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้วในพรรค ก็จะมีการปรึกษากัน แต่สุดท้ายจะเป็นคนตัดสินใจเอง
น.ส.แพทองธารกล่าวถึงการมีคนนอกมาร่วมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ว่า “เดี๋ยวรอสักนิด” ส่วนมีชื่อของนายอัครา พรหมเผ่า ซึ่งเป็นน้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส ในโควตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อ๋อ อันนี้ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ในเรื่องของตัวบุคคล เพราะพรรคพลังประชารัฐเอง เขายังมีปัญหาภายในที่ต้องแก้ไขอยู่ด้วย จริง ๆ ตอนแรกคิดว่าจะนิ่ง แล้วก็มีเหตุการณ์ของแต่ละพรรค ขอรอให้ถึงไฟนอลทีเดียวเลยแล้วกัน”
เมื่อถามว่า หากจะเข้ามาร่วมรัฐบาลจะต้องมาทั้งพรรคเลยใช่หรือไม่ เพราะเวลาโหวตในสภาจะได้ไม่มีปัญหา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “รอให้ไฟนอลอีกนิดนึง ตอบตอนนี้มันเร็วเกินไป เดี๋ยวไปตอบแทนเขา”
อิ๊งค์ลาออกจากเอกชน
นางสาวแพทองธารยังกล่าวถึงความชัดเจนในการลาออกจากกรรมการบริษัทในเครือชินวัตรจำนวน 21 บริษัทว่า ไม่แน่ใจว่าลาออกไปกี่บริษัท แต่ยืนยันว่าอะไรที่ทำแล้ว และขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการให้หมด ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายกำลังช่วยกันดำเนินการ แต่จะกี่บริษัทนั้น ไม่แน่ใจ ขอดูกฎหมายเป็นหลัก
“ภูมิธรรม” เผยมีโควตา “คนนอก”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การจัดตั้ง ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว เพราะนายกฯต้องเลือก ครม.เข้ามาร่วมงานให้เหมาะสม ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ ดังนั้น มีสิทธิที่จะเสนอใครก็ได้ที่คิดว่าเหมาะสม
ขณะที่หลายเรื่องยังไม่ตกลงก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการยกมือโหวตนายกฯ ไม่ได้หมายความว่ามีตัวแทนใน ครม. นายกรัฐมนตรีมีสิทธิจะเลือกว่ารัฐมนตรีพอแล้ว หรือยังไม่พอในระดับพรรคการเมืองที่มาร่วมกัน ก็อาจจะเลือกบุคลคลสำคัญ ๆ เหมือนในอดีต ที่เลือกนักกฎหมาย หรือบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน นายกรัฐมนตรีก็สามารถเลือกคนกลางเข้ามาได้
เมื่อถามย้ำ อาจจะเอาโควตารัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ 2 ตำแหน่ง และพรรคเพื่อไทย 2 ตำแหน่ง นายภูมิธรรมบอกว่าไม่ใช่ ไม่มีโควตา คำว่าโควตาเราไปเรียกกันเอง ตามความเคยชิน มันไม่เป็นแบบนั้น แต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ชื่อประชาธิปัตย์ยังเคว้ง
ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่าถึงขั้นตอนการหารือภายในพรรคประชาธิปัตย์ว่า “ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อน ว่าตกลงคุยหรือไม่คุย ขณะนี้เราดำเนินการตามที่ได้ตกลง และได้พูดผ่านสื่อไปแล้วว่าให้พรรคต่าง ๆ ส่งตัวแทนไปยื่นเอกสาร สำนักเลขาธิการ ครม. กับสำนักเลขาธิการกฤษฎีกา ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เพื่อไทยกำลังทยอยส่งรายชื่อ กระบวนการนี้ยังสามารถเพิ่มหรือลดรายชื่อได้ทั้งนั้น”
หมอมิ้งได้ชื่อรัฐมนตรีทุกพรรคแล้ว
ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ารายชื่อ ครม.ว่า “ขณะนี้ทุกพรรคได้เสนอเข้ามาเรียบร้อยแล้ว การตรวจสอบโดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อมาแล้วแต่ยังมีความสับสนในบางตำแหน่ง”
เมื่อถามว่ามีการขีดเส้นหรือไม่ ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเคลียร์ตัวเองได้เสร็จสิ้นเมื่อใด นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า อำนาจการตั้ง ครม.อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเราคงไม่ไปก้าวล่วง เพราะสุดท้ายแล้วจะอยู่ที่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ที่ผ่านมามีข่าวคาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานา ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง และตนขอไม่เปิดเผยชื่อใด ๆ
ธรรมนัสแบไต๋โควตาเพื่อไทย
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการส่งรายชื่อเข้าร่วม ครม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ไม่เคยเสนอบัญชีรายชื่อว่าใครจะเป็นรัฐมนตรี ต้องยึดตามพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหลัก แต่ละพรรคการเมืองต้องเคารพและให้เกียรติพรรคที่เป็นแกนนำ ว่าจะรับบุคคลใดร่วมคณะรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรี”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ส่งรายชื่อรัฐมนตรีไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีรายชื่อสำรอง และยังไม่ได้มีการแจ้งกลับมาให้เปลี่ยนคน และคิดว่าไม่น่ามีการขอให้สลับตำแหน่ง
เอกชนลุ้นรัฐบาลอิ๊งค์ ใช้งบฯ 68
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมาขับเคลื่อนนโยบายประเทศต่อนั้น ยังเชื่อว่ากำลังอยู่ในกระบวนการทำงานอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็มีปัญหาเร่งด่วนมาทั้งเรื่องเศรษฐกิจและน้ำท่วม ซึ่งหากทำได้เร็วก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ แต่เชื่อว่าสิ่งสำคัญคือ เรื่องการแถลงนโยบายจะเห็นแผนที่ชัดเจนของรัฐบาลที่จะเดินหน้าต่อไป
อย่างไรก็ดี หอการค้าไทยและภาคเอกชนพร้อมจะร่วมกันแก้ปัญหาเร่งด่วน สร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศได้ โดยเฉพาะในปี 2567 นี้ เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน โค้งสุดท้ายของปีนี้ ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุน และการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงงบประมาณภาครัฐที่จะออกมา เป็นสิ่งที่เห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วที่สุด
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากตั้งรัฐบาลได้เร็วงบประมาณปี 2568 ก็จะถูกนำมาใช้ทันในเดือนตุลาคมนี้ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ถือว่าตั้ง ครม.ยังไม่ช้าเกินไป ครึ่งปีหลังน่าจะเห็นเศรษฐกิจยังไปได้ ห่วงเพียงเรื่องน้ำท่วม ว่าหากรัฐแก้ไขช้า หรือท่วมนานอาจกระทบยอดขายรถยนต์โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์
เชื่อแจกเงิน 10,000 ฉลุย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Synnex และกรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลใหม่มีเวลา Honey Moon แค่เดือนเดียว ดังนั้น ต้องเร่งวางแผนว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างไร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมบ้าง สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทนั้น มั่นใจว่ารัฐบาลชุดใหม่ยังคงทำอยู่ เพียงแค่ปรับรูปแบบการจ่ายเงินเท่านั้น
“จุดแข็งของนายกรัฐมนตรีอิ๊งค์ คือพ่อ หรือนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ที่มี Super Connection มากมายหลายระดับ น่าจะช่วยลูกสาวในการทำงาน หรือเลือกตัวบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่แต่ละกระทรวงให้ได้แบบที่มีคุณภาพ” นายสุพันธุ์กล่าว
เร่งตามแผน PDP
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า หลังจากตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว อยากให้เร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) ที่มีการปรับใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นการวางแนวนโยบายที่สำคัญต่อการทำธุรกิจด้านพลังงานในอนาคต จึงอยากให้รัฐบาลแพทองธารเร่งพัฒนาแผน PDP ให้มีความชัดเจนโดยเร็ว