ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการจัดประชุมใหญ่พรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าไปที่บริษัทไทยซัมมิทเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมและได้กล่าวอำลาพนักงานในบริษัท ซึ่งเขาจะพ้นจากทุกตำแหน่งในบริษัท ในต้นเดือนมิถุนายนนี้
นายธนาธร เขียนไว้ในสเตตัส เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อค่ำวันที่ 24 พฤษภาคมว่า
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
“เดินออกจากบ้านหลังใหญ่ด้วยน้ำตาและกำลังใจ”
เมื่อวานเป็นวันที่ผมเข้าบริษัทไทยซัมมิทเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อถ่ายงานและร่ำลาผู้บริหาร รวมถึงพนักงานทุกคน
ผมได้เรียนรู้มากมายจากบ้านหลังนี้ ขอขอบคุณเพื่อนพนักงานและผู้บริหารทุกคนที่มีส่วนผลักดันการเดินทางของเรามาด้วยกัน มันเป็นการเดินทางที่สนุก ทะเยอทะยาน และมืออาชีพจริงๆ ไม่ว่าคำขอบคุณใดๆ คงไม่สามารถแทนความซาบซึ้งที่ผมมีให้กับทุกคนได้ ผมสัญญาว่าเพื่อจะตอบแทนความสนับสนุนของทุกคนที่มีให้ผมเสมอ ผมจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากที่นี่ ไปสร้างอนาคตของไทยที่ดีขึ้นเพื่อคนรุ่นต่อๆไป
เป็นเกียรติของผมที่ได้ทำงานกับทีมงานที่มุ่งมั่น มืออาชีพ และพร้อมที่จะรับกับสิ่งใหม่ๆ อย่างทีมงานไทยซัมมิท นี่คือทีมงานในฝันที่ผู้นำทุกคนต้องการ ผมไม่สามารถเรียกร้องอะไรมากกว่านี้ได้จากพวกคุณ
มันเป็นความภูมิใจเล็กๆของผมที่สามารถนำบริษัทจากบางโฉลงไปเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ผมภูมิใจที่เดินออกจากที่นี่ในเวลาที่บริษัทกำลังรุ่งโรจน์ ส่งมอบบริษัทที่แข็งแกร่งกว่าตอนที่ผมได้รับมาให้กับผู้บริหารรุ่นต่อไป ด้วยหวังว่าผู้บริหารรุ่นต่อไปจะทำแบบเดียวกัน
ก่อนจะเลือกเส้นทางชีวิตใหม่ ผมกำลังอยู่ในช่วงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตธุรกิจ บริษัททำยอดขายและกำไรสูงสุดในประวัติศาสตร์ ๔๐ ปี ผมตกผลึกในปรัชญาการบริหารของตนเองที่สั่งสมจากประสบการณ์การบริหารเกือบ ๒๐ ปี ความสัมพันธ์กับพนักงานเป็นไปได้ด้วยดี บริษัทได้รับรางวัลทั้งระดับโลกและระดับประเทศมากมาย นวัตกรรมของบริษัทเกิดการพัฒนาอย่างก้าวหน้า เรากำลังสร้างปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกของบริษัท และลูกค้าให้การยอมรับเราอย่างดี
การบริหารองค์กรที่มียอดขายแปดหมื่นกว่าล้านบาทต่อปี มีพนักงานสองหมื่นกว่าคน มีฐานการผลิตในเจ็ดประเทศทั่วโลกและจ้างงานชาวต่างชาติเกือบสามพันคน ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมเรียนรู้จากที่นี่ คือมนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ เป็นหน้าที่ผู้บริหารที่จะเปิดโอกาสให้คนดึงศักยภาพนั้นออกมาใช้ได้ เมื่อคนได้รับการยอมรับเพราะศักยภาพของตนเอง การทำงานจะมีความสุข และคนธรรมดาจะสามารถบรรลุผลที่ไม่ธรรมดาได้
ถ้าเราทำให้ไทยซัมมิทเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกด้วยฝีมือบริหารและนวัตกรรมของคนไทยได้ ผมมองไม่เห็นเลยว่าทำไมเราจะทำในระดับประเทศไม่ได้?