ชูศักดิ์เผยนายกฯ ยังไม่แบ่งงานดูข้อกฎหมาย เชื่อ ‘อิ๊งค์’ ไร้ปัญหาคุณสมบัติ พร้อมตั้งทีมกฎหมายเตรียมพร้อมชี้แจงข้อร้องเรียน ปัด ทักษิณครอบงำ ยันกรรมการบริหารมีอิสระการใช้ดุลพินิจ
วันที่ 5 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่ได้มีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน นายกรัฐมนตรีจึงยังไม่มอบหมายงานให้กับรัฐมนตรีแต่ละคน จึงยังไม่รู้ว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องข้อกฎหมายหรือไม่ ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายก่อน
ซึ่งในส่วนนโยบายด้านกฎหมาย ที่สำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหลายฉบับ รวมถึงกฎหมายที่รัฐบาลจะเสนอต่อสภา เช่น กฎหมายซอฟต์พาวเวอร์
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการแก้ไขเรื่องมาตรฐานด้านจริยธรรมด้วยหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่าจะต้องมีการตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ส่วนจะแก้ไขเรื่องอะไรบ้างนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดตอนนี้ เพราะเป็นหน้าที่ สส. ที่จะต้องคิดและทำในฐานะตัวแทนประชาชน
ส่วนสภาผู้แทนราษฎรจะขอแก้ไขเพิ่มเติมก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ ซึ่งนายชูศักดิ์ยอมรับว่าปัญหาสำคัญคือขอบเขตมาตรฐานด้านจริยธรรมไม่ชัด ไม่เหมือนกับเรื่องอื่น ดังนั้น บางคนจึงมองว่ามันเป็นนามธรรมเกินไป เพราะเมื่อไม่ชัดก็จะมีปัญหาเรื่องการตีความ ทำให้คนเกิดความวิตกจากการตีความกว้างเกินไป เช่น บางคนถูกเขียนใบสั่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และมีการไปจ่ายค่าปรับแล้ว ก็ยังอาจถูกมองว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมได้ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้เป็นมาตรฐานโดยไม่ต้องตีความกันมากมาย ต้องให้ ส.ส.ร.ไปพิจารณาในแง่ถ้อยคำ
ส่วนรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นนั้น จะมีใครที่สุ่มเสี่ยงจะผิดมาตรฐานจริยธรรมบ้างนั่น นายชูศักดิ์กล่าวว่าผ่านกันหมดแล้ว
ส่วนการช่วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดูข้อกฎหมายอย่างไรบ้าง นายชูศักดิ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีทราบถึงปัญหาของสังคมไทยดี และมีทีมมาช่วยเตรียมการไว้ทั้งหมดเพื่อระมัดระวังไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งเคยมีประสบการณ์ข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว ส่วนข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นภายหลังนายกรัฐมนตรีเข้าใจในประเด็น และทีมงานได้เตรียมข้อต่อสู้ไว้แล้ว เช่น ประเด็นการถือหุ้น เพราะเรื่องเหล่านี้มีบรรทัดฐานคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว
ส่วนประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า การให้คำปรึกษามันควรจะทำได้ เพราะเป็นเสรีภาพของประชาชน แต่การครอบงำเขียนไว้เพื่ออะไรเราทราบดี แต่ไม่ถึงกับกรรมการบริหารพรรคจะไม่มีอิสระทำอะไร ตนก็เป็นกรรมการบริหาร ขอยืนยันว่าใช้ดุลพินิจในการพิจารณาว่าจะทำอะไร ไม่ทำอะไร ไม่ใช่ให้ใครมาสั่ง