
ไพบูลย์ เผยสั่งปรับโครงสร้าง กก.บห. เสริมเอกภาพภายในพรรค โต้ครหา พปชร. พรรคเฉพาะกิจ ลั่นเป็นพรรคสมบูรณ์แบบ จะอยู่ยืนยาว ปัดตอบ ขับกลุ่ม สส. โหวตหนุนรัฐบาลหรือไม่
วันที่ 6 กันยายน 2567 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังประชุมใหญ่สามัญพรรค ครั้งที่ 2 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ เดินทางกลับหลังประชุมใหญ่สามัญพรรค ครั้งที่ 2 โดย พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการเดินหน้าทำงานของพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่ย้ำว่าจะไม่มีการแตกแยกว่า เรียบร้อย
เมื่อถามว่าเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรค จะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวเสียงเข้มว่า “เรื่องของธรรมนัสก็ไปถามธรรมนัสสิ”
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินเข้ามายังจุดที่ได้เตรียมให้สัมภาษณ์ พร้อมกล่าวย้ำอุดมการณ์พรรคว่า เรายึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันดับแรก ก่อนยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว
ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามกรณีของ ร.อ.ธรรมนัสอีกครั้ง แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนเดินขึ้นรถเดินทางกลับ พร้อมโบกมือให้กับสมาชิกพรรค
ต่อมา นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับตำแหน่งว่า แนวทางหลักคือจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตำแหน่งเลขาธิการพรรค จากเดิมเข้าไปดูผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่ในส่วนการสนับสนุนฝ่ายต่าง ๆ อาจจะไม่ได้ทำมาก
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงปรับโครงสร้างให้เป็นฝ่ายสนับสนุนรองหัวหน้าพรรคทั้ง 8 คน และให้รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้ดูแลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย และที่สำคัญการปฏิบัติงานต้องขึ้นตรงต่อหัวหน้าพรรค เพื่อให้พรรคมีความมั่นคงสถาพร เชื่อว่าการตั้งกรรมการพรรคชุดใหม่ครั้งนี้ จะสร้างความเข้มแข็งเป็นปึกแผ่นให้กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อก้าวต่อไป
เมื่อถามว่าจะมีการปรับแนวทางพรรคอะไรบ้าง นายไพบูลย์กล่าวว่าคงมีการประชุมกันเพื่อกำหนดแนวทางต่าง ๆ ย้ำว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีโครงสร้างที่เข้มแข็ง เพราะรองหัวหน้าพรรคผสมผสานทั้งนักวิชาการ สส. แกนนำพรรค และรัฐมนตรี สำหรับแนวทางของพรรคหลังจากนี้ ต้องรอการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งต่อไป และจะแถลงข่าวให้ทราบเป็นระยะ
เมื่อถามว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะอุดรอยรั่วภายในพรรคได้หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า การปรับครั้งนี้จะทำโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวและมั่นคง เพราะกรรมการบริหารเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานในนามพรรค เพราะฉะนั้นหากมีความเป็นเอกภาพ เชื่อว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่ากรรมการบริหารชุดนี้ จะไม่ใช่ชุดที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อะไร หรือไม่มีบทบาทแบบที่ผ่านมา
เมื่อถามว่ามีความพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านมากน้อยแค่ไหน นายไพบูลย์กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้วครับ เพราะการมี สส.ไม่ว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราก็พร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุด ตนเองเชื่อว่าเราจะก้าวไปสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากขึ้น
เมื่อถามว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นโดยทหาร จะทำอย่างไรให้พรรคแตกต่างจากพรรคทหารในอดีต นายไพบูลย์กล่าวว่า พลเอกประวิตรเป็นนายทหารนอกราชการ ซึ่งทหารที่มาร่วมในพรรคเป็นสัดส่วนน้อยมาก ฉะนั้นพรรคเราไม่ใช่พรรคทหารอย่างที่เขาว่า แต่เป็นพรรคการเมืองที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันก่อตั้งถึงปัจจุบัน และพรรคที่ความมุ่งมั่นทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องและยืนยาว แม้หลายฝ่ายจะปรามาสว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ ซึ่งตนเองยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นหัวหน้าพรรคนี้ตลอดไป
เมื่อถามย้ำว่าในอดีตพรรคที่ก่อตั้งโดยทหารมีอายุไม่ยืนยาวเท่าไร นายไพบูลย์กล่าวว่า เห็นว่าพรรคใดที่ก่อตั้งโดยคนที่ไม่มียศทหาร ก็ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว ฉะนั้นก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่เรายังอยู่
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเป็นฝ่ายค้าน แต่มี สส.โหวตสนับสนุนรัฐบาล จะดำเนินการอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า เมื่อมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงมีการประชุมโดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานสภา ส่วนจะเป็นอย่างไรขอให้รอมติที่ประชุม เพราะหากเอาความเห็นส่วนตัวมาพูดคงไม่ดี
เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องขับออกหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึง แต่เรายังไม่มีแนวคิดอะไรทั้งสิ้น ขอให้มีมติจากกรรมการบริหารพรรคก่อน เมื่อถามต่อว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบในสภาเข้มข้นหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบไม่เคยเกรงใจใคร ตนเองชอบมากเพราะเป็นงานถนัด ตั้งแต่ตนเองเป็น สว. ตรวจสอบรัฐบาลมาตลอด 6 ปี
เมื่อถามว่าจะได้เห็นพลเอกประวิตรอภิปรายในสภาหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า พลเอกประวิตรดำริอยู่บ่อยว่าจะเข้าสภาในเวลาที่สะดวก ส่วนการอภิปรายขอให้รอดู เมื่อถามว่าพลเอกประวิตรตั้งเป้าซักฟอกใครเป็นพิเศษหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่าต้องไปถามท่านเอง แต่ส่วนตัวคงรู้ว่าจะตรวจสอบใคร พูดไปหลายครั้งแล้ว