มรสุมการเมืองถล่ม “บ้านป่า” ตรวจคลื่นหัวใจ “พลังประชารัฐ”

พลังประชารัฐ
คอลัมน์ : Politics policy people forum

คลิปการเมืองที่มีเสียงปริศนา คล้ายกับ “ลุงบ้านป่า” ที่ต้องการเป็นเบอร์ 1 ทำเอาการเมืองทั้งกระดานสั่นไหว

ตั้งแต่มูลนิธิป่ารอยต่อ ไปจนถึงอาคารพรรคพลังประชารัฐ ไปถึงห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร

เป็นเวลาเดียวกับที่ กลุ่มการเมืองบ้านใหญ่ที่เคยเป็น “นั่งร้าน” ในพรรคพลังประชารัฐ กำลังย้ายหนี

อันเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องจากกรณีพรรคพลังประชารัฐประชุมเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการพรรคใหม่ มีชายที่ชื่อ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่

ซึ่งเป็นอาฟเตอร์ช็อกภายหลังจากที่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 20 เสียง ย้ายข้างไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จนได้เก้าอี้รัฐมนตรี 3 เก้าอี้ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

เกิดจากกรณีที่ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาจากคำร้องของกลุ่ม 40 สว. ชุดก่อน อันเป็น “อาวุธลับ” ของกลุ่มบ้านป่า

ADVERTISMENT

สถานการณ์พรรคพลังประชารัฐนอกจากกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ที่ยกโขยง สส. 20 ชีวิต ไปร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ยังเลือดไหลไม่หยุด

บ้านใหญ่รัตนเศรษฐ ที่มี “วิรัช รัตนเศรษฐ” ลาออกเกือบยกซุ้ม เหลือเพียง “วิรัช” ที่ยังอยู่เพียงคนเดียวเพื่อรอดูสถานการณ์ พร้อมปรากฏเสียงลือว่าเตรียมส่งลูก “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” อดีต รมช.คมนาคม ไปนั่งเป็นข้าราชการการเมืองที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใต้ร่มเงา ร.อ.ธรรมนัส

ADVERTISMENT

ขณะที่บ้านใหญ่มะขามหวาน บ้านใหญ่กำแพงเพชร และบ้านใหญ่สระแก้ว จับตาดูสถานการณ์แบบตาไม่กะพริบ

พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค กำลังถูกปิดเกม โดนรุกฆาตการเมือง

ไพบูลย์ยันไม่ได้พรรคแตก

ขณะที่ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คนใหม่ป้ายแดง เห็นต่างจากเสียงวิจารณ์ที่บอกว่า พรรคพลังประชารัฐกำลัง พรรคแตก

“ผมเห็นต่าง…ผมเห็นว่าพรรคกำลังเดินมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา ระยะนี้อย่าเพิ่งคิดถึงจำนวน สส. การแก้ปัญหาอันดับแรก คือ แก้ปัญหาความเป็นเอกภาพของพรรค ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะแก้ปัญหา”

“วันนี้เราปรับโครงสร้างพรรคครั้งใหญ่ ปรับคนที่อาจจะมีความขัดแย้ง หรือทำให้ขัดแย้ง ก็แก้ไขปัญหากันออกไป”

ฟ้าหลังฝนย่อมมีโอกาส

“บางอย่างอาจเห็นว่าเป็นวิกฤต แต่ผมเป็นนักที่ใช้วิกฤตเป็นโอกาส หลังเกิดสงคราม โอ้ยแย่แล้ว แต่อาจเป็นโอกาสที่ดีก็ได้”

“ในปัญหาก็มีโอกาสทั้งนั้น ฟ้าหลังฝน เพราะการเป็นพรรคฝ่ายค้าน เราจะได้เริ่มตั้งหลัก ในสายตาอาจเป็นพรรคตกต่ำ แต่สำหรับคนที่อยู่ก็จะได้ใจ ถือว่ามีใจกันจริง ๆ แล้วเมื่อไหร่ที่เรากลับไปเป็นฝ่ายรัฐบาลอีก เราก็จะได้ทีมนี้ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน จะเป็นกำลังที่เข้มแข็ง”

“และเราสามารถถอดบทเรียนได้ เหมือนที่หัวหน้าบอกไว้ในที่ประชุมว่า กระจายอำนาจในการดูพื้นที่ สส. เดิมตำแหน่งเลขาธิการพรรคดู สส.ทั้งหมด”

“เลขาฯทำตัวเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 2 พอมีเรื่องเกิดขึ้นก็ Move ออกไป จึงเป็นปัญหาความมั่นคงของพรรค”

“แต่ต่อไปนี้มีรองหัวหน้าพรรค 8 คน แบ่งกันกระจายกันดูแลตามภาคก็จะดูแลได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเลขาฯพรรคไม่ได้ดูแม้แต่พื้นที่เดียว จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนการทำงาน จัดการสื่อสารเพิ่มเติมขึ้น แทนที่คอยตอบข่าวเฉย ๆ ก็จัดเวทีเสวนาทุกสัปดาห์ สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ทุกอาทิตย์ และเราจะถ่ายทอดสด ผมชอบทำเรื่องนี้”

ลุงยังมีพลัง

เลขาฯยุคนี้ไม่ต้องมีบารมี ? ไพบูลย์กล่าวว่า ถูกต้อง เลขาฯพรรคมีหน้าที่สนับสนุนทุกคน บารมีจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทุกคนประสบความสำเร็จ

ภายใต้หัวหน้าพรรค เลขาธิการไพบูลย์มีหน้าที่สนับสนุน ซึ่งสำหรับจำนวน สส.ในอนาคต ดูจากหัวหน้าที่มีความมั่นใจอย่างนี้ มันต้องมี สส.มากกว่า 40

ถามคำถามสำคัญว่า “ลุง” ยังมีพลัง-บารมีสูงส่งอยู่หรือไม่ “ไพบูลย์” ตอบชัดถ้อยชัดคำว่า สูงส่ง สบาย สามารถนำพรรคไป ท่านไม่เลิก มีกำลัง มีพลังทุกอย่าง

ถามย้ำว่ากำลังมาจากอะไร ไพบูลย์กล่าวว่า “ตัวท่านเองมี เท่าที่ดู ท่านมีความมั่นคงอย่างเต็มร้อย เหมือนที่เราเจอความแตกแยกครั้งใหญ่ เราก็รับมืออย่างเป็นระบบ ปรับโครงสร้างจนมั่นคง ไม่มีนโยบายลดจำนวน สส. ที่มี 40 คน เราก็อยากให้ครบ 40 คน”

เพิ่ง Chapter 1

คำถามว่า นาทีนี้พลังประชารัฐเหลืออะไร “ไพบูลย์” กล่าวว่า เหลือ สส. 20 คน อีก 20 ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ก็ยังเป็นพรรคอยู่ รอถึงการเลือกตั้งก็จะนับ 1 ใหม่หมด แล้วรู้ได้อย่างไร 20 คนที่กำลังถูกตรวจสอบอยู่จะเลยไปเลย

เพราะหนทางมันยังยาวนาน ทำไมเขาถึงจะอยากไปอยู่ทางนั้น (ร.อ.ธรรมนัส) อะไรถึงอยากไป ได้เป็นรัฐมนตรีกี่คน คนหนึ่งเอาพรรคพวก คนหนึ่งเอาพ่อ แล้ว 18 คนที่เขาหวังอะไร

18 คน เขาก็หวังว่าเขาจะได้พวกเขาเป็นรัฐมนตรี แล้วถ้ายุบสภาก็คือไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีประเทศไทยไม่ได้เป็นตลอดไปเมื่อไหร่

แล้วจะมีอะไรดึงดูดให้ สส.ในกลุ่มนั้นเขากลับมา ไพบูลย์กล่าวว่า ถ้าเรากลับกลายเป็นฝ่ายรัฐบาลล่ะ แล้วมั่นใจได้อย่างไร รัฐบาลนี้จะอยู่ไปชั่วฟ้าดินสลาย

แต่เราต้องอยู่ที่เราอย่าทำตัวผิดกฎหมาย ถ้าเราไม่ผิดกฎหมายเราก็จะยืนอยู่ได้นาน เพราะคนอื่นทำผิดกฎหมาย

หลักแค่ว่าคนที่ยืนอยู่นานกว่าโดยไม่ผิดกฎหมายเลยก็จะเป็นผู้รอด แต่คนที่ทำผิดกฎหมายไม่ว่าตัวใหญ่แค่ไหนก็จะกลายเป็นผู้ไม่รอด ง่ายๆ

ถามว่าเป็นกลุ่มไหน “ไพบูลย์” บอกว่า กลุ่มที่เรามองแล้วว่ามีปัญหาในตัวเขาเอง พรรคแกนนำพรรคหนึ่ง ที่มีเจ้าของพรรคชื่อคนหนึ่ง

เขาไปสร้างความไม่ถูกต้องไว้ สาธารณะก็รับรู้กันหมด ดังนั้น ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของเขาก็เป็นหลักธรรมดาของฝ่ายตรงข้ามกัน

“เมื่อเขาทรุดเราก็พุ่ง แต่ตอนนี้เขาพุ่ง เราก็รักษาตัวเองไว้ที่ตั้ง การทำสงคราม ต้องดูว่าฝ่ายตรงข้ามทรุด กำลังก็ต้องลดถอยลง เราก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้ว”

“ไพบูลย์” ยืนยันว่า เราไม่ได้ไปขัดแย้งกับพรรคไหน อาจจะยกเว้นพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยอยู่ในระบอบของทักษิณ ก็ต้องขัดแย้งกันจะไปบอกว่ารักกันไม่ได้

ไพบูลย์แนะนำว่า อันนี้เพิ่ง Chapter 1 ไปดูตอนจบสิ ใครจะเป็นพระเอก นางเอก ใครจะเป็นผู้ร้าย ไม่นาน นับเดือนเอา ไม่ต้องนับปี