
นายกฯ ประชุมแก้ปัญหา-ฟื้นฟูอุทกภัย สั่งตั้ง ศปช.คุมสถานการณ์ ไฟเขียวงบฯกลาง 3 พันล้านเร่งเยียวยา ปชช. ชง ครม.อนุมัติพรุ่งนี้ เผยเบื้องต้นช่วยยกเว้นค่าน้ำ-ค่าไฟพื้นที่ประสบภัย 2 เดือน มั่นใจ กทม.ไม่ท่วม
วันที่ 16 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ กว่า 2 ชั่วโมงว่า ได้มีการมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ศปช.
และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ จะมีคณะกรรมการจากทุกหน่วยงานเป็นองค์ประกอบครบ เพื่อให้แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ถ้ามีปัญหารวมถึงเรื่องการเยียวยาจะได้ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว โดยคณะกรรมการฯชุดนี้ จะตั้งไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น้ำเริ่มมาทางอีสาน เมื่อคืนแม้จะมีฝนตกหนักทั้งทางเหนือแต่ปริมาณน้ำไม่ได้มีผลกระทบ และวันนี้หน่วยงานต่าง ๆ เริ่มบอกทิศทางของน้ำ โดยเฉพาะจังหวัดที่น้ำกำลังจะไปให้มีการเตรียมพร้อมแจ้งประชาชนให้รับทราบว่าจะมวลน้ำเข้าไปในพื้นที่ว่าจะเก็บของหรือจะทำอย่างไร เคลื่อนย้ายอย่างไร และเตรียมตัวอย่างไรบ้าง โดยตนได้ย้ำชัดเจนว่าถ้าจะเกิดเหตุจริง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบก่อน ให้แจ้งล่วงหน้าหลายวัน
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำที่หนองคายขณะนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “น้ำลดลงแล้วค่ะ ตอนนี้”
ส่วนการเตรียมพร้อมหลังจากนี้ที่น้ำโขงจะไหลลงไปที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายก่อนที่จะไหลลง สปป.ลาว มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราได้แจ้งไปหมดแล้วว่าน้ำจะมาในปริมาณเท่าไหร่ และเท่าที่ประชุมกันปีนี้ไม่ได้หนัก แต่จะมีน้ำที่ไหลผ่าน และตอนนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าไปสแตนด์บายไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า ที่น้ำโขงลดลงเป็นเพราะว่าจีนหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริง ๆ แล้วเขาปล่อยน้ำในอัตราปกติ ไม่ได้มีส่วนให้ท่วมมากชึ้น อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ส่วนของกรุงเทพฯ แม่น้ำเจ้าพระยามีศักยภาพมากพอ เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯ จะไม่ท่วม
ส่วนพื้นที่ ที่ถูกน้ำท่วมแล้ว คาดว่า 3 วันทุกอย่างจะจบลง และแผนฟื้นฟูต่าง ๆ จะทำให้กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด
เมื่อถามถึงมาตรการเยียวยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องดูกรอบการเยียวยาว่าจะสามารถปรับอย่างไรได้บ้าง แต่ตอนนี้ เราคิดว่าความรวดเร็วต้องมาก่อน จึงให้ใช้กรอบเดิมก่อน เพราะกรอบใหม่จะต้องใช้เวลาในการพิจารณา และเมื่อสักครู่นี้ได้พูดคุยกับกระทรวงมหาดไทย จะมีการยกเว้นค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน คือ เดือนกันยายน ส่วนเดือนตุลาคม จะลด 30% เป็นแค่การตั้งไว้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นยืดยาวออกไป เราจะเพิ่มมาตรการอีก ซึ่งเราจะทำทันทีเพื่อซับพอร์ตประชาชน
ส่วนเรื่องของการซ่อมแซมบ้านเรือนได้พูดคุยกับทางกองทัพ ซึ่งระดมกำลังมาช่วยอย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอ จึงได้ให้กระทรวงศึกษาธิการระดมนักเรียนอาชีวะมาช่วยกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบประมาณที่จะใช้ในการเยียวยาเป็นกรอบเดิมไม่ต้องเข้าที่ประชุม ครม.แล้ว สามารถดำเนินการได้เลย เพราะเราต้องการเรื่องความเร็ว ส่วนการช่วยเหลือเพิ่มเติมต้องมาดูในรายละเอียดว่าจะปรับเพิ่มอะไรได้บ้าง
เมื่อถามว่า ตอนนี้ยอดเยียวยาตามกรอบเดิมประชาชนจะได้หลังคาเรือนละเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้เต็มที่คือ 230,000 บาท นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงกล่าวเสริมว่า มีหมวดอื่นอีกประมาณ 4-5 หมื่นบาท นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ยังมีงบกลางที่เราสำรองไว้สำหรับน้ำท่วม รวมถึงเรื่องของการเสียชีวิต จะใช้กรอบเดิมแต่เราจะพิจารณาเพิ่ม
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าว ซักถามในรายละเอียดนายกรัฐมนตรี ได้ผลักไมค์ให้ นายภูมิธรรม ช่วยตอบคำถาม ซึ่ง นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ใช้กรอบการเยียวยาเดิมทุกอย่างแต่จะเร่งให้เร็วขึ้น หลังจากนั้นจะพิจารณาว่าจะเยียวยาเพิ่มเติมส่วนใดได้บ้าง ในที่ประชุม ศปช. ในวันพุธที่ 18 กันยายนนี้
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องดูรายละเอียดว่าหน้างานพร้อมไหม และลงไปทำอะไร แต่ถ้ามีโอกาสจะไปอยู่แล้ว และเราก็ได้ส่งรองนายกฯลงพื้นที่ไปแล้วโดยมีการแบ่งงานให้กับทั้ง 4 รองนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ศปช. นายกฯ ได้เห็นชอบอนุมัติงบฯกลางวงเงิน 3,000 ล้านบาท เพื่อเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.วันที่ 17 กันยายนนี้ เนื่องจากต้องการให้เงินเยียวยาถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบเร็วที่สุด โดยผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย