“ณัฏฐา” แกนนำ “อยากเลือกตั้ง” ยื่นอุทธรณ์ค้านฝากขัง ยืนยันหลักนิติธรรม สำเร็จได้เงินประกันคืน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมือง พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายความกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เดินทางมายื่นอุทธรณ์คำสั่งฝากขังของศาล กรณีที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังและศาลอนุญาตให้ฝากขังในคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งชุมนุมต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 4 ปี คสช. และเรียกร้องการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2561

โดยนายนรินท์พงศ์กล่าวว่า มายื่นอุทธรณ์คำสั่งฝากขังที่คิดว่าขัดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน เชื่อว่ากระบวนการฝากขังไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ศาลอุทธรณ์เห็นรายละเอียดการดำเนินการกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเป็นเรื่องขัดสิทธิมนุษยชนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายธรรมดาหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ด้าน น.ส.ณัฏฐากล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มายื่นอุทธรณ์เพื่ออิสรภาพ เพราะทุกคนเห็นแล้วว่าตนมีอิสรภาพจากการประกันตัว แต่มายื่นเพื่อยืนยันหลักนิติธรรมว่ากระบวนการนั้นมิชอบ คือต้องถือว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้รับคำตัดสิน ในคำสั่งฝากขังมีข้อความบางช่วงตอนที่บอกว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทำผิดจริง มีปัญหาและตั้งคำถามได้ และเหตุผลของพนักงานสอบสวนที่ขอคัดค้านการฝากขัง การสอบพยานและรอผลพิมพ์ลายนิ้วมือ หากมีอิสรภาพก็ยังทำได้อยู่ ไม่จำเป็นต้องเอาไปขัง หลักฐานทุกอย่างอยู่ในสื่อมวลชน คลิปวิดีโอ และโลกออนไลน์อยู่แล้ว หลักในการฝากขังจำกัดเสรีภาพตามกฎหมายต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น คืออิสรภาพเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน เช่น การหลบหนี ซึ่งคดีนี้เรามอบตัวเองเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทั้งที่ยังไม่มีหมายจับ การยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือเป็นบุคคลอันตราย ซึ่งไม่ใช่อาชญากร คดีนี้เป็นคดีการเมือง จึงผิดตั้งแต่ขั้นพนักงานสอบสวนแล้วที่พยายามฝากขังเป็นการกลั่นแกล้ง

น.ส.ณัฏฐากล่าวด้วยว่า ใช้สิทธิในฐานะผู้ต้องหาในการยื่นอุทธรณ์ หากเป็นผลคำสั่งฝากขังจะต้องถูกยก เงินประกัน 1,500,000 บาท ก็จะต้องได้รับกลับคืนมา วันนี้ตนมายื่นคนเดียวเพื่อความรวดเร็ว หากอีก 14 คน ประสงค์จะยื่นสามารถตามกันมาได้ คดีของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งสำหรับตนคดีนี้เป็นคดีที่ 4 แล้ว พวกตนทั้งหมดร้อยกว่าคนไม่สามารถหาเงินประกันมาได้แน่ๆ และไม่ต้องการรบกวนสังคมในการระดมทุนอีก เป็นเงินที่ไม่ควรจะต้องเสียในการละเมิดโดยใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ เราต้องตั้งหลักและต้องสู้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์