แพทองธาร สั่งทุกหน่วย ป้องกันประชาชนถูกหลอกขายตรง เหมือนกรณีดิไอคอนกรุ๊ป

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

นายกฯแพทองธารสั่งการในที่ประชุม ครม. มอบตำรวจจัดช่องทางให้ประชาชนแจ้งความได้รวดเร็ว หลังเกิดปัญหาขายตรง จากกรณีดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group)

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าสืบเนื่องจากที่เกิดกรณีที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ จากการขายตรงและสินค้าออนไลน์ (The iCon Group) เรื่องดังกล่าวได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดให้มีช่องทางที่ประชาชนจะสามารถเข้าแจ้งเรื่องของเบาะแสและการแจ้งความได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

และสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งกำหนดมาตรการและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงให้ความรู้กับประชาชนด้วย เพราะบางคนเข้ามาในธุรกิจนี้แต่ไม่ทราบว่าการขายตรงต้องมีอะไร อย่างไรบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาต่อไป ป้องกันไม่ให้มีการหลอกลวงเช่นนี้ขึ้นอีก

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาวางจำหน่ายในระบบขายตรงหรือออนไลน์ และสั่งการให้กระทรวงการคลังเข้าไปตรวจสอบ และกำหนดมาตรการ เพื่อไม่ให้เกิดการทำธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดิไอคอนบานปลายถึงขั้นมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปรู้เห็นรับส่วย รับสินบน ทำให้ธุรกิจที่หลอกลวงประชาชนยังอยู่ เพราะผู้บริหารดิไอคอนก็ยอมรับเองว่ามีการจ่ายส่วย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องมีการสอบสวนต่อว่ามีใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ตร.แล้ว ต้องการให้ทางตำรวจจริงจังเรื่องนี้ และในทางคดีต้องดูว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ จะเข้ามาช่วยด้วยหรือไม่ และหากเข้ามาช่วยก็จะได้ทำงานร่วมกับตำรวจเพื่อให้คดีมีความละเอียดและดียิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐรับส่วยนั้น ได้พูดคุยกับทาง ผบ.ตร.ไปแล้ว ขอให้จัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะไม่อยากให้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม

Advertisment

เมื่อถามว่า มีข้อกล่าวหาว่ามีเทวดาใน สคบ. ซึ่งถือว่าเป็นจุดหลักที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่ได้ จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในกรอบกว้าง ๆ เราก็ไม่อยากให้ธุรกิจในลักษณะหลอกลวงประชาชนเกิดขึ้นอีก เราจะเห็นได้ว่ามีผู้ได้รับความเสียหายมากกว่าที่คิดไว้เยอะ เพราะฉะนั้นต้องทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงได้สั่งการไปยังทุกฝ่ายแล้วให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเร็วที่สุด และให้แถลงผลการดำเนินงานต่อประชาชนด้วย เพื่อให้เกิดความสบายใจ เพื่อที่ต่อไปการทำธุรกิจเราจะได้มีข้อมูลและการป้องกันไม่ให้ถูกหลอก

เมื่อถามถึงคลิปเสียงที่หลุดมาพัวพันไปถึงนักการเมือง ซึ่งสามารถวิ่งเต้นเพื่อไม่ให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งการแล้ว

Advertisment

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการขายสินค้าออนไลน์ เนื่องจากขณะนี้มีสภาพปัญหาตามที่สังคมรับทราบ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดให้มีช่องทางที่ประชาชนสามารถแจ้งความได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีที่มีผู้กระทำความผิดโดยเร็ว โดยให้รายงานตรงต่อนายกฯได้ตลอดเวลา และให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งกำหนดมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย หรือให้ความรู้กับพี่น้องประชาชนเพื่อไม่ให้การหลอกลวงลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นผู้ออกใบอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นครีมหรืออาหารเสริมต่าง ๆ อย.ต้องทำงานอย่างแข็งขัน และบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีการรับรองเข้ามาขายในระบบขายตรงหรือระบบออนไลน์ หมายความว่าต่อไปนี้ ไม่ว่าท่านจะขายอะไร แม้ท่านจะมีฉลาก อย.แล้ว แต่นายกฯสั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอให้กระทรวงการคลังเข้าไปตรวจสอบหามาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ขึ้นอีก