นายกฯ ลั่น ปลัดท่าอุเทน ไม่โตในราชการ หลังกลับมาทำงาน พ้นคดีตากใบ

แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร

แพทองธาร ลั่น ปลัดท่าอุเทน 1 ในจำเลยคดีตากใบ กลับมาทำงานเมื่อคดีหมดอายุความ กระทบการเติบโตทางราชการแน่ มอบ มหาดไทยดูระเบียบ หลังมีข้อเสนอริบเงินบำเหน็จ-บำนาญ ทำได้หรือไม่ พร้อมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 

วันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีข้อเสนอให้ตัดเงินบำนาญ และบำเหน็จข้าราชการที่หนีคดีตากใบว่า ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบอยู่ ได้สั่งการและคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าอยู่ระหว่างการทำระเบียบอยู่

เมื่อถามว่ามีระเบียบที่สามารถริบเงินดังกล่าวได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร หันไปมองนายอนุทิน ก่อนกล่าวว่า ขอเวลาสักนิด ต้องดูในข้อรายละเอียดก่อน แต่ทราบเรื่องหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีแผนที่จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อให้กำลังใจกับผู้เสียหายบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริง ๆ มีแผนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว แต่ขอดูอีกทีว่าจะไปจังหวัดใด อย่างไรก็ตาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ไปอยู่แล้ว และวันนี้ตนก็สวมเสื้อลายของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มา

เมื่อถามถึงกรณีที่ปลัดอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีตากใบและกลับมาทำงานทันทีหลังจากคดีหมดอายุความลง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้นายอนุทินเป็นคนตอบ และเมื่อสักครู่ได้คุยกันแล้วและให้นายอนุทินได้ชี้แจง

เมื่อถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นจะกระทบกับความเชื่อมั่น ของระบบราชการไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เรามีหลักเรื่องนี้เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายอนุทินไปจัดการเรื่องนี้ก็ต้องใช้หลักกระบวนการทางทางกฎหมายที่เป็นหลักสำคัญ”

ADVERTISMENT

เมื่อถามย้ำว่ากรณีปลัดท่าอุเทนสะท้อนถึงภาพความเชื่อมั่น และฝ่ายความมั่นคงของหน่วยงานของรัฐหรือไม่ เพราะเมื่อหมดอายุความผู้ต้องหาก็กลับมาทำงานทันที นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ค่ะ ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่เราก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศต่อ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้เราก็เข้าใจได้”

เมื่อถามว่าจะกระทบต่อการเติบโตต่อหน้าที่ในราชการหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ค่ะ แน่นอนค่ะ” ขณะที่นายอนุทินหันมากล่าวยืนยันว่าแน่นอน

ADVERTISMENT

อนุทินสั่งสอบปลัดอำเภอท่าอุเทน

วันเดียวกัน (29 ตุลาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการกรณีปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีตากใบ กลับไปทำงานหลังคดีหมดอายุความ ว่าได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเท่าที่ทราบเขายื่นหนังสือลาพักผ่อน แต่หลังจากทราบว่าโดนหมายจับก็ได้สั่งยกเลิกใบลาดังกล่าว และสั่งให้กลับมารายงานตัว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มา

โดยเท่าที่ทราบน่าจะขาดราชการ 6 วัน แต่ตามระเบียบแล้วต้องขาด 15 วัน ถึงจะไล่ออกจากราชการได้ ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรม ว่าเพราะเหตุใดถึงไม่มารายงานตัว ซึ่งต้องฟังคำอธิบายของเขาด้วย เพราะตอนที่ลายังไม่มีหมายจับ

โดยยอมรับว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับจริยธรรมข้าราชการ อย่างที่เคยบอกไปแล้ว คนกลุ่มนี้จะอยู่สบาย ๆ คงไม่ใช่ ต้องรับแรงกดดันมหาศาล เมื่อเจอชื่อก็จะ “ร้องเอ๊ะ” ได้เลย ซึ่งถือเป็นขอโทษทางสังคม แต่การลงโทษอื่น ๆ ต้องเป็นไปตามระเบียบ และเชื่อว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางสายงาน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไปยืนยันให้ความเป็นธรรม เราไม่กลั่นแกล้งใครอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือไม่ นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า ถ้าตนสั่งตนก็ผิด เพราะเป็นการไปก้าวก่ายข้าราชการประจำ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย หากจะมีการย้ายข้าราชการระดับ 9 ไม่ต้องปรึกษารัฐมนตรี

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ตามหนังสือใบลาได้ระบุว่า “ลาพักผ่อน” และมีหนังสือจากนายอำเภอท่าอุเทน ได้ชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมไปแล้วว่า อนุมัติไปวันไหน และเมื่อรู้ว่ามีหมายจับก็ได้สั่งยกเลิก และเรียกมารายงานตัว ซึ่งเป็นมูลเหตุที่ต้องสอบถาม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

ส่วนที่มีการเสนอให้ตัดบำเหน็จบำนาญนั้น นายอนุทินกล่าวว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบ จะลงโทษอะไรใครต้องมีระเบียบรองรับ ไม่เช่นนั้นคนที่ไปลงโทษเขาจะถูกฟ้องได้