
นายกฯ ลุย จ.ร้อยเอ็ด ตามงานแก้ไขปัญหายาเสพติด สานต่อเศรษฐา ตั้งเป้านำร่องใช้โมเดล 10 จังหวัด หวังให้ประเทศไทยกลายเป็นสีขาว ลดลง 90% จี้ตรวจข้าราชการให้เป็นตัวอย่าง
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ไปติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้การต้อนรับ
ภารกิจแรก นายกฯ เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหายาเสพติด และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ ณ วัดบ้านเขวาทุ่ง ตำบลเขวาทุ่ง อำเภอธวัชบุรี ทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงได้รับชมการแสดงจากชาวบ้านในพื้นที่ รำประเพณีชวนอ้ายเที่ยวเมืองร้อยเอ็ด และมีตัวแทนชาวบ้านผูกผ้าขาวม้า ให้การต้อนรับ
จากนั้นรับฟังการรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด จาก พล.ต.ต.ทรงพลัง บริบาลประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดสาธารณสุขจังหวัด โดยของบประมาณเพิ่มเติมในการบริหารจัดการ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ไม่เพียงพอ และรับฟังการบูรณาการจากมณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2
จากนั้นนายกฯ กล่าวกับชาวบ้านว่า เสียงแหบนิดนึง ยังไม่ค่อยหายดี ดีใจ เป็นเกียรติที่ได้ติตตามงานต่อจากนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีความจริงจังในการปราบยาเสพติดทั้งประเทศ ซึ่งมีธวัชบุรีโมเดล จังหวัดร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล ที่จังหวัดน่าน
และอย่างที่บอกปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาพื้นที่ ที่หากไม่เอาจริงจะต่อนโยบายอื่นได้ยาก นโยบายยาเสพติดจึงถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภา ทั้งนี้ ขอบคุณที่ทำงานอย่างจริงจัง ซึ่งต้องอาศัยแรงกายแรงใจในการแก้ปัญหา
ขณะที่คนที่ติดยาเสพติดที่เข้าสู่สังคม ตนขอให้กำลังใจ เพราะการตกเป็นทาสยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกำลังใจจากสังคม พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้พร้อมสานต่อนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ไม่อยากให้ลูกหลานโตมากับยาเสพติด โดยเราจะตั้ง 10 จังหวัดนำร่องยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ได้แก่ ภาคเหนือ เชียงใหม่, ภาคกลาง อุทัยธานี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สกลนคร นครพนม, ภาคตะวันออก ระยอง และภาคใต้ นครศรีธรรมราช ตรัง นราธิวาส
นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ทำในเรื่องของการอัพเดตข้อมูลเพื่อเป็นฐานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรับทราบข้อมูลร่วมกัน เข้าถึงข้อมูลได้ จะได้รู้ว่าเราแก้ปัญหาไปถึงจุดไหนแล้ว พร้อมย้ำว่ายาเสพติดเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องช่วยกันทำให้หมดไป และหากปัญหายาเสพติดหมดไป จะช่วยแก้ปัญหาเล็กน้อยให้หมดไปด้วย ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงกังวลในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนเรื่องของการปราบปราม นายกฯ ระบุว่า ขอให้ตัดวงจร และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดอายัดทรัพย์เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก และคิดว่าจะเป็นการดี เราเองดูแลประชาชน แล้วเราต้องดูแลข้าราชการที่ทำงานด้วย เมื่อถึงจุดนั้นอยากให้มีการตรวจเช็กข้าราชการด้วย ไม่ใช่การไม่ไว้ใจ แต่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ดี ว่าคนทำงานไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประชาชนจะได้ไว้ใจคนที่เข้าไปปราบปราม ดูแล บำบัด
ส่วนเรื่องของการบำบัดมี ปปส. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มหาดไทย (มท.) ตำรวจ ทหาร คอยดูแล และขอให้เร่งพิจารณาสถานพยาบาล และการเปิดศูนย์บำบัด อยากให้ย้ำเสมอว่า ขอให้ใจดีกับผู้รักษา เพราะกำลังใจเท่านั้นทำให้ผู้บำบัดเดินออกไปอย่างสง่างาม และขอย้ำในเรื่องของการฝึกอาชีพที่รัฐบาลอยากจะดูต่อเนื่องให้ผู้บำบัดมีอาชีพอย่างจริงจัง
สุดท้ายขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลจริงจังกับการแก้ปัญหาให้หมดไปทั้งประเทศ และให้ปัญหายาเสพติดลดลง 90% เป็นพื้นที่สีขาวในทุกพื้นที่
หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายเสร็จสิ้น รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ตอบรับว่าจะตรวจสารเสพติด ตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปถึงข้าราชการในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ก่อนที่คณะนายกฯ จะเดินทางต่อไปยังค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ เพื่อติดตามกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของโครงการมินิธัญญารักษ์ และเดินทางต่อไป ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติด (อบต.น้ำใส) ตำบลน้ำใส อำเภอจตุรพักตรพิมาน เพื่อตรวจติดตามการฝึกอาชีพและแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้ารับการบำบัด และพบปะประชาชนกว่า 500 คน
อย่างไรก็ตาม ทั้งธวัชบุรีโมเดล จังหวัดร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล จังหวัดน่าน เป็นการขับเคลื่อนพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เป็นจังหวัดสีขาว ภายในเดือนกันยายน 2567 ของรัฐบาลเพื่อไทย 1 ครั้ง ที่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Lexus สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 5 ขส 45 กรุงเทพมหานคร ในการเดินทางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด