ภูมิธรรม ชี้ยกเลิก MOU 44 เท่ากับไทยไม่รักษาเขตแดน ย้อน พปชร. ถาม ประวิตร ก็เคยเจรจา

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย

ภูมิธรรมยันเกาะกูดของไทย 100% แจงยิบ MOU 44 คืออะไรหากเข้าใจจะไม่สับสน ชี้หากขอยกเลิกเท่ากับไม่รักษาเขตแดน-ย้อนลูกพรรคพลังประชารัฐไปถาม ‘ประวิตร’ หลังเคยเป็นหัวหน้าชุดเจรจา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะดูแลหน่วยงานด้านความมั่นคง กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคไทย-กัมพูชา (JTC) เพื่อหารือกรอบเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หรือเอ็มโอยู 44 ของสองประเทศ จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เมื่อไหร่ว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องพิจารณา

แต่ทางคณะกรรมการเดิม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการจะมีกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ตัวแทนกรมสนธิสัญญา กฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น คณะกรรมการชุดใหม่ก็ต้องให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้ตนยังไม่เห็นรายละเอียด

เมื่อถามว่า ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากยกเลิกเอ็มโอยู 44 ไทยอาจจะเสียประโยชน์มากกว่า นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องเอ็มโอยู 44 ต้องกลับไปดูสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ตอนนั้นฝรั่งเศสได้ขอพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และยกฝั่ง จ.ตราด และเกาะต่าง ๆ ให้ไทย ดังนั้น เกาะกูดหากยึดตามสนธิสัญญาดังกล่าว การแบ่งเส้นเขตแดนจึงเห็นว่าเกาะกูดเป็นของไทยมาตั้งแต่ต้น ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลง และทางกัมพูชาก็ไม่ได้เคลมเรื่องนี้ รวมถึงยอมรับในสนธิสัญญาดังกล่าว

ดังนั้น การนำมาเป็นประเด็นว่าจะยกเกาะกูดให้ จึงไม่เป็นจริง และไม่เกี่ยวกับเอ็มโอยูดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทย 100% และนายกฯ ได้ประกาศแล้วว่าเราจะไม่ยอมเสียดินแดนตรงนี้ไป และรักษาไว้เท่าชีวิต ซึ่งขณะนี้เรามีหน่วยงานราชการต่าง ๆ อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และขอให้ยุติเรื่องนี้ เพราะเป็นคำพูดที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

Advertisment

นายภูมิธรรมชี้แจงเพิ่มเติมว่า เอ็มโอยู 44 มันเกิดขึ้นจากการประกาศไหล่ทวีป ซึ่งปี 2515 กัมพูชาประกาศมาใกล้เขตแดนไทย และปี 2516 เราก็ประกาศไปใกล้เขตแดนเขา ดังนั้น จึงมีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ และพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวก็เป็นเรื่องของเอ็มโอยูที่บอกว่าในโลกทั้งหมดไม่ว่าใครที่มีพื้นที่ทับซ้อนจะต้องเจรจา

ดังนั้น เอ็มโอยู 44 จึงเป็นข้อตกลงที่ให้ไปเจรจากัน ว่าการแบ่งดินแดนในทะเลจะเป็นของใคร หากเข้าใจตรงนี้ก็จะไม่สับสน แล้วมาตั้งคำถามที่เป็นปัญหา ดังนั้น ไทยกับกัมพูชาจึงต้องเจรจากัน เพราะหากไทยยกเลิกตรงนี้ก็เท่ากับว่าไทยไม่รักษาสิทธิในเขตแดน

Advertisment

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ตอนนั้นกระทรวงการต่างประเทศเสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 44 เพราะมีแรงกดดันทั้งประเด็นปราสาทพระวิหารและเรื่องชายแดนต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้แค่รับหลักการไปดูรายละเอียด และกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ขอความเห็นจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งทุกหน่วยงานยืนยันว่า เอ็มโอยู 44 เป็นกลไกที่ดีที่สุดในการเจรจา และที่บอกว่าสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยกเลิกนั้นไม่จริง และในปี 2557 สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็ดำเนินการต่อ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีกำกับด้านความมั่นคง ไปเจรจาเรื่องเอ็มโอยู 44

ดังนั้น มองว่าไม่ว่าส่วนใดหรือพรรคการเมืองใดพูดเรื่องนี้ควรกลับไปดูประวัติศาสตร์ และข้อตกลงระหว่างสยามฝรั่งเศส จึงอย่าถามอะไรที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และหากถามนอกเหนือจากกรอบดังกล่าว ก็คงต้องหาคำตอบกันเอง และสำหรับประเด็นนี้ตนจะไม่ตอบอีกแล้ว

เมื่อถามว่า มองใหญ่อย่างไรที่กลุ่มการเมืองพรรคพลังประชารัฐออกมาโจมตีเรื่องนี้ ทั้งที่ปี 2557 พล.อ.ประวิตรเป็นประธานเจรจาเรื่องดังกล่าว นายภูมิธรรมกล่าวว่า กลุ่มการเมืองพรรคพลังประชารัฐก็ต้องกลับไปดูว่าหัวหน้าพรรคไปเจรจาเอ็มโอยู 44 ทั้งหมดเหมือนกัน

“ถ้าถามแบบนี้ พลังประชารัฐก็ต้องกลับไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง ว่าตอนนั้นทำไมถึงไปเจรจา” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่าเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ ที่ทำให้ประเด็นดังกล่าวถูกหยิกยศมาโจมตีในรัฐบาล นายภูมิธรรมกล่าวว่าไม่เกี่ยวเลย เพราะประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องของรัฐบาล ส่วนการพูดโจมตีประเด็นไหนก็ต้องไปถามเหตุผลเขา แต่ตนคิดว่าควรยืนยันข้อเท็จจริง และหากถามมาก็ทำให้ภายในแตกแยก และวันนี้ต้องไปดูว่าต่อรองผลประโยชน์ทางทะเลได้อย่างไร แต่เรื่องนี้ถูกขุดขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไรเลย

เมื่อถามว่า หลักการเจรจาแบ่งขุมทรัพย์ใต้ทะเลรัฐบาลนี้จะแบ่งเท่ากันหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าอย่าพึ่งไปคุยตรงนั้นเลย เพราะมันยังไม่เกิดถึงเวลา เราใช้กฎหมายทางทะเลและกฎหมายระหว่างประเทศเป็นตัวดำเนินการ

นายภูมิธรรม ในฐานะกำกับดูแลคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอประวัติเวชระเบียน เกี่ยวกับการรักษาตัวของนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่มีการส่งมาให้ ว่าต้องไปถาม ป.ป.ช. ว่าส่งแล้วจริงหรือไม่ หากส่งแล้วทำไมจึงยังไม่ได้มา และทางตำรวจตอบอย่างไร ตนไม่สามารถตอบแทนได้

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าเตรียมลงพื้นที่เกาะกูด จังหวัดตราด เพื่อไปสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังเกิดกรณีการทำบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา หรือ MOU 44 เกี่ยวกับกรอบเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา จนทำให้เกิดความกังวลว่าจะเสียเกาะกูดไปให้กับกัมพูชา และถือโอกาสไปตรวจราชการ เพื่อติดตามความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่