เพื่อไทย ไม่กังวลถูกร้อง-ลั่นทำได้ ‘ทักษิณ​’ เริ่มลงพื้นที่ช่วยหาเสียงนายก อบจ.

ชูศักดิ์​ ศิรินิล
ชูศักดิ์​ ศิรินิล

‘ชูศักดิ์’​ รับ​เข้าให้ปากคำอัยการเพิ่มเติม​ ปม เพื่อไทยถูกร้อง​คดีล้มล้างการปกครอง​ ชี้​รอศาลรัฐธรรมนูญเคาะรับหรือไม่ – มั่นใจ​ ‘ทักษิณ​’ ช่วยผู้สมัคร นายก อบจ. หาเสียงไม่ผิด​-ไม่หวั่นนักร้อง เหตุ​ “ผู้ช่วยหาเสียง” กกต.ไม่กำหนดคุณสมบัติ​

นายชูศักดิ์​ ศิรินิล​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะฝ่ายกฎหมายรัฐบาล และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเข้าให้ถ้อยคำพนักงานสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด กรณีพรรคเพื่อไทย ถูกยื่นคำร้องขอให้หยุดการกระทำที่นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง​ว่า​ กรณีที่มีรายงานข่าวบอกว่าคณะทำงานของอัยการมีความเห็นแบบหนึ่ง

แล้วอัยการสูงสุดมีความเห็นแย้งนั้น ไม่ตรงกับรายงานข่าว ไม่เป็นความจริง แต่ที่รับรู้ อัยการสูงสุดให้สอบเพิ่มทั้งฝ่ายผู้ร้อง​และผู้ถูกร้อง เพราะเดิมคณะทำงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว แต่ท้ายที่สุดอัยการสูงสุดให้สอบเพิ่ม เพื่อให้ละเอียดรอบคอบ

จึงเป็นที่มาให้พรรคเพื่อไทย เข้าให้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ตนจึงเดินทางเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 5 พ.ย.​ที่ผ่านมา เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ให้อัยการสูงสุด ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ​ (รธน.) เพราะศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้สำนักงานอัยการสูงสุด ส่งความเห็นภายในวันที่ 8​ หรือ ​15​ พ.ย.นี้ เพื่อประกอบการวินิจฉัยว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง

ซึ่งตนก็ยังไม่มั่นใจ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และเป็นสาเหตุให้ตนเดินทางไป​ และตนก็ให้การตามที่ทุกคนเคยรับรู้รับทราบแล้ว​

เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณ​ ชินวัตร​ อดีตนายกฯ เริ่มเคลื่อนไหว​ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีขึ้น ทางคดีที่ถูกร้องอยู่หรือไม่ นายชูศักดิ์​กล่าวว่า​ ต้องแยกกันระหว่าง คดีของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนก็ทราบว่าผู้ร้องคือใคร และร้องประเด็นใด ซึ่งเป็นการร้องตาม มาตรา 49 ว่าด้วยการล้มล้างการปกครอง แต่พรรคเพื่อไทย ดูแล้วคำร้องทั้งหมดนั้นไม่เข้าตามมาตราดังกล่าว เพราะฉะนั้น ตนขอใช้คำง่าย ๆ ว่า “ทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายมันมั่ว” ส่วนคำชี้แจงของเราจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป พร้อมย้ำว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่ผลก็ยังไม่ทราบ

Advertisment

ขณะเดียวกัน นายชูศักดิ์​ยังระบุอีกว่า​ คำร้องอีก 1 เรื่องที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเรื่องการครอบงำพรรคของนายทักษิณ ตนยืนยันว่า ไม่ใช่ การครอบงำอะไร

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ จะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครหาเสียง เลือกตั้งนายก อบจ.จังหวัดอุดรธานี​ สามารถทำได้หรือไม่นั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.ก็อนุญาต​ให้บุคคลประเภทนี้ ที่เขาเรียกว่า “ผู้ช่วยหาเสียง” และที่ผ่านมา นายทักษิณก็ทำมาตั้งนานแล้ว และเป็นบุคคลประเภทเดียวกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งที่สำคัญผู้สมัคร สามารถตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงตามระเบียบได้ เนื่องจากไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติ​ และที่ผ่านมานายทักษิณ ก็ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงตั้งแต่การเลือกนายก อบจ.ครั้งที่ผ่านมาแล้ว และก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

Advertisment

เมื่อถามว่า มีการแจ้งกับ กกต. เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้สมัคร

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าจะไม่มีการยื่นร้องเอาผิดย้อนหลังใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์​กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ทำได้และทำมาแล้ว ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง​ พร้อมกับระบุว่า ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นผู้ช่วยหาเสียงพื้นที่ใด ซึ่งตามระเบียบสามารถทำได้ แค่นั้นเอง

เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ครั้งนี้จะเป็นการทุ่มชิงพื้นที่จากพรรคประชาชนหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องไปถามผู้สมัคร ว่าโดยรวมนั้นเป็นอย่างไร เพราะยุทธศาสตร์เหล่านี้เป็นเรื่องของพรรค แต่แน่นอนว่าจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะเห็นนายทักษิณ​ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงบ่อยขึ้นหรือไม่ นายชูศักดิ์ระบุว่า เป็นเรื่องของดุลพินิจของนายทักษิณ ที่จะดูเรื่องความเหมาะสม

เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ หลังจากนี้จะมีนักร้องนำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียน นายชูศักดิ์ย้ำคำเดิมว่า ไม่ได้กังวลอะไร เพราะตามระเบียบสามารถทำได้และเคยทำมาแล้ว​ พร้อมย้ำว่าไม่ต่างอะไรกับหลายคนที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมือง และพรรคเพื่อไทยก็มีบุคคลประเภทนี้มาก ก่อนทิ้งท้ายว่า เพราะโดนกระทำมาเยอะ