อนุทิน ยันไม่มีฟอกขาว ‘คดีเขากระโดง’ ทุกอย่างตามกฎหมาย ลั่นไม่มีแทรกแซง บอกนิสัยไม่มีช่วยเพื่อน – อธิบดีที่ดิน ชี้ทำตามคำสั่งศาล-ตรวจสอบได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ผลสรุปกรมที่ดิน ในกรณีที่ดินเขากระโดง ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย ตนเข้ามาที่กระทรวงมหาดไทย รู้จักทุกฝ่าย แต่สิ่งที่ตนบอกกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยโดยตลอด ว่าให้ว่ากันตามเนื้อผ้า ว่ากันตามกฎหมายและกฎระเบียบ
ตนไม่มีแทรกแซง ไม่มีความกดดันใดๆ นี่คือสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ หากจะเอาให้ชัดเจน ต้องไปถามคนที่ทำเรื่องนี้ว่ามีแรงกดดันอะไรลงไปหรือเปล่า
นายอนุทิน ยังได้ชี้แจงถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการลาออกของอธิบดีกรมที่ดิน มาเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว ว่าเขาต้องการไปดูแลสุขภาพของภรรยา และตอนที่ตนเข้ามากระทรวงใหม่ๆ ตนเป็นคนขอให้ยับยั้งการลาออกของท่าน 2-3 รอบ แต่ท่านก็อธิบายถึงความจำเป็น และท่านก็มาให้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้
ส่วนที่สำนักข่าวมาตีข่าว ว่าอธิบดีทนไม่ไหว จนต้องลาออกนั้น ยืนยันว่ามันไม่ใช่ การเสนอข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และคณะกรรมการที่ศึกษาเรื่องที่ดินเขากระโดงแต่งตั้งขึ้นก่อนที่ตนจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 แต่คำพิพากษามีมาตั้งแต่ปี 2560-2561 ก่อนตนเข้ารับตำแหน่ง 6 ปี คงไม่มีใครคิดว่าตนจะมารับตำแหน่งหรอก
พร้อมย้ำว่า ด้วยนิสัยของตนและวิธีการทำงาน แต่ไหนแต่ไรมา เพื่อนถึงน้อยจนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีคำว่าช่วยเพื่อน มาอยู่ตรงนี้ช่วยไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า คำแถลงการณ์ของกรมที่ดิน ที่ระบุว่าหลักฐานไปไม่ถึง ไม่ใช่เป็นการฟอกขาวใช่หรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า กรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งมีคำสั่งของศาลปกครอง ให้ร่วมกันตั้งกับทางการรถไฟ แต่คณะกรรมการชุดนี้ตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอยู่
ตนคงมาสั่งการอะไรในกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ และไม่ว่าผลการตัดสินนั้นจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ไม่มีช่องไหนที่จะมาบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามารถเพิกถอน หรือไม่เพิกถอน เพราะไม่ใช่อำนาจของรัฐมนตรี เรื่องมันจบที่กรม จบที่คำสั่งศาล หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่ 5 พันกว่าไร่ เท่าที่ตนทราบตระกูลชิดชอบ มีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร
หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ
ขณะที่ นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ผลสรุปกรมฯ ว่าในส่วนของกรมที่ดินทำ ทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมายไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้
เมื่อถามว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทิน จะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย
เมื่อถามย้ำว่า เมื่อดูจากพยานหลักฐานไปไม่ถึงจริงๆใช่หรือไม่ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า เรื่องหลักฐานเรื่องการอ้างสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการหรือประชาชนต้องมีหลักฐานทางกฎหมายที่ยืนยันถึงการมีสิทธิ์ที่ดินนั้นๆ