อนุทินขออย่าเอาการเมืองโยงข้อพิพาท “เขากระโดง” หวั่นทำให้ยุ่ง ยันทั้ง “กรมที่ดิน-ร.ฟ.ท.” ต่างทำหน้าที่ตัวเอง ชี้เรื่องเกิดสมัย “บิ๊กป๊อก” นั่ง มท.1 บอกใครจะมีอิทธิพลเหนือได้ ลั่นไม่มีแทรกแซงระบบ ท้าตรวจสอบดู
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่าทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง เรื่องเขากระโดงขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เป็นคดีความระหว่างกรมที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รวมถึงผู้ครอบครองที่ดิน ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ถ้าเอาการเมืองมายุ่งแบบนี้จะยุ่งแล้ว จึงเห็นว่าฝ่ายการเมืองต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว และไม่มีข้อสั่งการ และไม่มีความจำเป็นที่ฝ่ายราชการต้องมารายงานรัฐมนตรีเป็นประจำ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน มีคำพิพากษา มีวิธีการ
เมื่อถามว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ได้สั่งให้ร.ฟ.ท.โต้แย้งคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน นายอนุทินกล่าวว่าที่ทำมาทุกวันนี้ก็ทำตามคำสั่งศาลปกครอง และทำมาก่อนรัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาด้วย และที่ตนตอบเรื่องนี้ไม่ได้เต็มที่ เพราะไม่ได้เข้าไปสอบถามรายละเอียด เพราะถ้าเข้าไปถามก็เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ารัฐมนตรีเข้าไปกดดัน ตนจึงพยายามรับรู้เมื่อเกิดการกระทำขึ้นแล้ว และเมื่อคณะกรรมการกรมที่ดินบอกให้ยุติเรื่องการเพิกถอน ร.ฟ.ท.ก็สามารถเพิกถอนคำสั่งได้ ตามช่องทางกฎหมายว่าจะไปศาลไหน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยก็ทำได้แค่นี้
เมื่อถามว่าสาเหตุมาจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่ ที่ทำให้การเพิกถอนนั้นยาก นายอนุทินกล่าวว่าไม่มีหรอก เรื่องนี้เกิดขึ้นมาเป็นสิบปีแล้ว ส่วนที่มีการบอกว่ายุคนี้จะมีการช่วยเหลือกัน คำพิพากษาศาลฎีกาก็ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งตอนนั้นเป็นรัฐบาล คสช. ยังไม่มีการเลือกตั้ง และจากนั้นมีคณะกรรมการกรมที่ดินตามมาตรา 61 ที่ตั้งเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ดำเนินการเรื่องนี้ก็ตั้งโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ขณะนั้น ส่วนตนเป็นรมว.สาธารณสุข ตนจะไปมีอิทธิพลอะไรเหนือ พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้น หากเอาการเมืองเข้ามายุ่งก็จะวุ่นวายแบบนี้
“บอกว่าผมพูดไม่ตรงกับนายสุริยะ ซึ่งนายสุริยะนั้นพูดถูกต้องทุกอย่าง เหมือนไปเกาะกูดเมื่อวานก็บอกว่าตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ ท่านสุริยะก็บอกตารางวาเดียวก็เสียไม่ได้ เพราะท่านอยู่ฝั่งการรถไฟฯ ท่านสั่งอย่างอื่นไม่ได้ ในส่วนของผมอำนาจทุกอย่างจบที่กรมที่ดิน เพราะดูแลเรื่องนี้อยู่ ถามว่าจะไปสั่งอธิบดีกรมที่ดินให้ทำสิ่งที่ผิดใครจะไปทำ เพราะท่านเหลืออายุราชการ 1-2 ปี ท่านไม่ทำหรอก คำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำสั่งไม่สมเหตุสมผล ผมเคยพูดแก่ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยตลอดว่าไม่ต้องทำตาม” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการเอาคืนทางการเมือง หลังก่อนหน้านี้ ภท. ท้วงติงในหลายโครงการของพรรคเพื่อไทย นายอนุทินกล่าวว่า “อุ้ย วุฒิภาวะระดับนี้เอาคืนแบบนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำตรงนี้ ขอยืนยันว่าเรื่องไม่เกี่ยวกับการเมือง ทุกคนทำตามหน้าที่ เพราะถ้าเกี่ยวข้องการเมือง ผมต้องรู้เรื่อง ต้องลงไปสั่ง ต้องขอให้เขาทำนู่นทำนี่ แต่ไปเช็กดูได้ว่าไม่มี” นายอนุทิน กล่าว
ด้านนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่าจะให้การรถไฟฯ ยื่นคัดค้านกรณีที่กรมที่ดินไม่เพิกถอนสิทธิที่ดินเขากระโดง ว่าทุกอย่างดำเนินการไปตามที่ศาลปกครองสั่ง และในเรื่องการเพิกถอนต้องมีคณะกรรมการ ดำเนินการเพิกถอนตามมาตรา 61 โดยที่ผ่านมาได้ตั้งคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการรังวัดตามกระบวนการ ขั้นตอนเรียบร้อยหมดทุกอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กระทรวงคมนาคมมอบการรถไฟฯ ยื่นคัดค้าน กรณีที่กรมที่ดินยกเลิกการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง นายพรพจน์กล่าวว่าการแถลงข่าวตอนแรกอาจจะไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องรังวัด ที่อยู่ในรายงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว และช่วงวันที่ 2-26 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมที่ดินในพื้นที่และการรถไฟฯ ซึ่งกรมที่ดินได้ชี้แจงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามย้ำว่าการดำเนินการสามารถยืนยันได้ใช่หรือไม่ ว่าทำการตามกฎหมาย อธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า ยืนยันว่าทำตามหลักกฎหมาย ไม่มีอะไรที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งของศาลทุกประการ และอยู่บนข้อเท็จที่เกิดตามหน้างานจริง และคงไม่ต้องชี้แจงกับกระทรวงคมนาคม เพราะทุกอย่างที่ทำมาได้รายงานต่อศาลปกครอง ตามคำสั่งของศาล และขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง คงไม่ต้องมาต่อสู้อะไรกัน