นายกฯ เตรียมถกเอเปค พบ ‘สี จิ้นผิง ผู้นำหลายชาติ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจ’ ดึงลงทุนมาไทย

นายกฯ ถึงเปรู เตรียมร่วมประชุมเอเปค พบ ‘สี จิ้นผิง-ผู้นำหลายชาติ’ ก่อบพบภาคธุรกิจ ‘ไมโครซอฟท์-กูเกิล-ติ๊กต๊อก หวังเจรจาดึงการลงทุนเข้าไทย พร้อมประกาศเสถียรภาพประเทศพร้อม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางต่อจากสหรัฐอเมริกา ถึงท่าอากาศยานกองทัพอากาศ กองบินที่ 2 กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมเอเปค เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง

โดยภารกิจนายกฯ วันพรุ่งนี้ จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 31 รวมถึงการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมเอเปคจะมีโอกาสได้พบปะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ซึ่งไม่เคยพบกันอย่างเป็นทางการมาก่อน จึงหวังว่าการพบกับผู้นำในหลายเขตเศรษฐกิจในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้แนะนำให้แต่ละประเทศสมาชิกทราบว่าไทยกำลังสนใจประเด็นใดอยู่ และมองเห็นปัญหาอะไรร่วมกันกับทั่วโลก

ด้วยเหตุนี้การประชุมเอเปคจึงถือเป็นเวทีที่มีความสำคัญ ที่จะสร้างโอกาสให้ได้พบเจอกับผู้นำแต่ละประเทศเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ จะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำทางด้านธุรกิจ อาทิ ไมโครซอฟท์ (Microsoft), กูเกิล (Google) และติ๊กต๊อก (TikTok) จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การหารือจะสามารถเจรจาในเรื่องของการลงทุนกลับมาให้ประเทศไทยได้

รวมทั้งบอกให้ทั่วโลกรู้ว่าประเทศไทยมีเสถียรภาพหลายอย่าง และพร้อมแล้วสำหรับการลงทุน ไม่ใช่แค่เฉพาะด้านเทคโนโลยี แต่ยังรวมถึงการขายสินค้าการเกษตรด้วย ซึ่งไทยมีความพร้อมในการผลิตสินค้าให้กับประเทศต่าง ๆ ฉะนั้น การเดินทางไปด้วยตัวเองในครั้งนี้ เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้แต่ละประเทศหันมาสนใจและเข้ามาลงทุนง่ายยิ่งขึ้น เสมือนเป็นตัวเชื่อมว่ามาลงทุนและมาซื้อได้เลย รัฐบาลพร้อมที่จะซัพพอร์ต

ขณะที่การเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา นายกฯ กล่าวว่าได้เดินทางไปที่วัดไทยนครลอสแองเจลิสและได้พบปะกับชุมชนไทย ซึ่งทราบกันดีว่า นอกประเทศไทย นครลอสแองเจลิสถือเป็นชุมชนที่มีจำนวนคนไทยเยอะที่สุด จำนวนกว่า 3 แสนคน

เมื่อวานจึงได้รับกำลังใจจากคนไทยที่อยู่ที่นั่น และได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกัน อีกทั้งยังได้ไปกราบพระ และเดินตลาดข้าง ๆ ที่เป็นตลาดขายอาหารและขนมไทยต่าง ๆ จึงได้แวะชิมชาไทย ข้าวเหนียวมะม่วง และขนมเบื้อง ซึ่งขายดีและเป็นที่นิยมมาก ๆ โดยงานจัดมา 3 ปีแล้ว เป็นธุรกิจที่คนไทยทำเอง

แต่มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยว ขณะเดียวกัน ยังได้มีโอกาสดูการแสดงของนักเรียนโรงเรียนวัดไทยนครลอสแองเจลิส ทั้งการแสดงมวยไทย รำไทย และดนตรีไทย จึงรู้สึกอบอุ่บเหมือนอยู่บ้านเราทุกครั้ง เมื่อเจอคนไทยในต่างแดน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่า ได้พบกับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา จึงได้พูดคุยและมอบนโยบายต่างประเทศ อีกทั้งยังได้เล่าให้ฟังว่าประเทศไทยโฟกัสอะไรบ้าง และจะเดินหน้าการทูตอย่างไรต่อไป ซึ่งเราอยากให้เดินหน้าการทูตเชิงรุกมากขึ้น เพราะทราบกันดีว่าทูตเป็นเหมือนทัพหน้าของเรา จึงอยากให้ประสานผู้แทนการค้าเพื่อมองหาการลงทุนในต่างประเทศมาลงทุนในไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเน้นในเรื่องของเอไอและเทคโนโลยีต่าง ๆ ขณะนี้ก็ดึงนักลงทุนมาได้พอสมควรแล้ว จึงมีการวางแผนไปถึงปีหน้า ว่าจะมีโอกาสดี ๆ เข้ามาให้ประเทศไทยอีกหรือไม่

พร้อมเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกันถึงการสนับสนุนและพัฒนาสตาร์ตอัพด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันว่าคนไทยมีศักยภาพ จึงอยากสร้างโอกาสให้คนไทยกลับมาทำงาน และช่วยกันพัฒนาประเทศไทยเยอะ ๆ เพราะเสียดายศักยภาพคนไทย ตนจึงได้บอกกับเอกอัครราชทูตให้ช่วยกันสงเสริมในเรื่องนี้

ขณะที่เรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ ได้เน้นย้ำให้ช่วยกันส่งเสริมในทุกมิติ เพราะจะเห็นว่าอาหารต่างชาติชอบมาก กลายเป็นว่าทำให้ต่างชาติทานเผ็ดได้มากขึ้น เนื่องจากอาหารไทยแซ่บ จึงถือเป็นเรื่องดี

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ และทีมไทยแลนด์ในภูมิภาคอเมริกา โดยขอให้ดูแลคนไทยในต่างประเทศให้ดี มีอะไรก็ให้สนับสนุน ฉะนั้น หากคนไทยต้องการอะไรก็ขอให้ติดต่อสถานทูตมาได้ทันที